Mauri Kunnas: จากนักวาดการ์ตูนสู่ศิลปินผู้สร้างโลกคู่ขนานอีกใบของเด็กๆ ขึ้นมาผ่านหนังสือภาพที่เต็มไปด้วยรายละเอียด

Mauri Kunnas: จากนักวาดการ์ตูนสู่ศิลปินผู้สร้างโลกคู่ขนานอีกใบของเด็กๆ ขึ้นมาผ่านหนังสือภาพที่เต็มไปด้วยรายละเอียด

ในโลกหนังสือภาพสำหรับเด็กที่เต็มไปด้วยภาพสวย เนื้อหาสนุก และจินตนาการไร้ขีดจำกัด ชื่อของ Mauri Kunnas โดดเด่นขึ้นมาในฐานะนักเล่าเรื่องที่ไม่ได้เพียง ทำให้เด็กๆ หัวเราะขำชัย แต่ยัง ทำให้พวกเขาคิด รู้สึก และเชื่อว่าโลกใบนี้ยังมีความน่ารักหลงเหลืออยู่จริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นซีรีส์ของแพะขี้ละเมออย่าง Mr. Clutterbuck หรือโลกเบื้องหลังหมู่บ้านซานต้าที่ละเอียดและสมจริงอย่าง Santa Claus series ผลงานของ Kunnas ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษในการเล่าเรื่องที่ “เป็นมิตรกับเด็ก” และ “จริงใจกับผู้อ่าน” อย่างที่หาได้ยาก

และจากคำเชิญชวนจากสถานทูตฟินแลนด์ และบรรณาธิการสำนักพิมพ์ BAREFOOT BANANA ผู้แปลและจัดพิมพ์หนังสือหลายเล่มของคุณ Mauri Kunnas ชาว Mappa จึงได้เดินทางมาพบและพูดคุยกับ คุณ​ Mauri Kunnas และภรรยา คุณ Tarja Kunnas ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่  53 ท่ามกลางอากาศร้อนระอุของเมืองกรุงเทพ และวันหลังจากสถานการณ์แผ่นดินไหวเพียงหนึ่งวัน

แฟนคลับคุณปุ๊บปั๊บ หรือ Mr.Clutterbuck อาจรู้จักคุณ Mauri ในฐานะนักสร้างสรรค์หนังสือนิทานภาพ แต่น้อยคนจะรู้ว่า ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักเขียนชื่อดังระดับนานาชาติ และนิทานแปลไปแล้วหลายภาษา Kunnas เริ่มต้นจากการเป็น “นักวาดการ์ตูนล้อการเมือง” มาก่อน

เราไปทำความรู้จักกับนักเขียนที่ซ่อนอารมณ์ขันงุบงิบไว้ในภาพประกอบละเอียดยิบกันค่ะ

✏️ จากเส้นดินสอการเมือง สู่เส้นสายหนังสือภาพในโลกเด็ก

Mauri Kunnas เกิดในปี 1950 ที่เมือง Säkylä ประเทศฟินแลนด์ เขาหลงใหลการวาดรูปตั้งแต่วัยเด็ก โตมากับหนังสือภาพและนิทานพื้นบ้านที่จุดประกายจินตนาการ และเริ่มวาดการ์ตูนของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย

หลังจบการศึกษาด้านการออกแบบกราฟิกจาก University of Art and Design Helsinki เขาก้าวเข้าสู่วงการสิ่งพิมพ์ในฐานะ นักวาดการ์ตูนการเมืองและการ์ตูนล้อสังคม ในยุค 1970s
ผลงานของเขาในช่วงนั้นมีอารมณ์ขันแบบประชดประชัน สะท้อนสภาพสังคม การเมือง และวัฒนธรรมในแบบที่คนฟินแลนด์รู้จักกันดี

Kunnas เคยเล่าว่า การทำงานในวงการการ์ตูนให้บทเรียนสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะการ “เล่าเรื่องให้กระชับ สื่อสารชัด และไม่เสแสร้ง” และเมื่อเขาตัดสินใจเบนเข็มจากการ์ตูนผู้ใหญ่ สู่หนังสือสำหรับเด็ก ทักษะทั้งหมดนั้นก็กลายเป็น “อาวุธลับ” ที่ทำให้ผลงานของเขา ทั้งสนุก มีไหวพริบ และเข้าถึงได้จริง

🐐 Mr. Clutterbuck: ตัวตนที่เราอาจมองข้ามในตัวเอง

หนึ่งในผลงานสร้างชื่อที่สุดของ Mauri Kunnas คือซีรีส์ “Mr. Clutterbuck” หรือชื่อฟินแลนด์ว่า Herra Hakkarainen แพะขี้ละเมอที่กลายเป็นฮีโร่ในยามหลับโดยไม่รู้ตัว

ตัวละครนี้ดูเหมือนไม่มีอะไรโดดเด่น เขาเงียบ เรียบร้อย ใช้ชีวิตซ้ำๆ และไม่สุงสิงกับใคร
แต่ทุกคืน เขาจะละเมอออกไปทำสิ่งเหลือเชื่อ เดินทางไกล ปราบผู้ร้าย ลงสมัครนายกฯ หรือกลายเป็นนักบินอวกาศ ก่อนจะกลับมาตื่นเช้าด้วยความงงว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น คุณ Mauri บอกกับพวกเราว่า “คุณปุ๊บปั๊บเป็นตัวแทนของคนธรรมดา ที่ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าจดจำ แต่จริงๆ แล้ว พวกเขาอาจกำลังเปลี่ยนแปลงบางอย่างในโลก โดยไม่รู้ตัวก็ได้”

🎅 Santa Claus Series: หมู่บ้านซานต้าที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างอยากเข้าไปอยู่

อีกหนึ่งผลงานระดับโลกของ Kunnas คือซีรีส์ Santa Claus ซึ่งเล่าเรื่องราวของซานตาคลอสอย่างละเอียด ชวนเชื่อ และมีชีวิต

ในหนังสือเล่มดังอย่าง Santa Claus and the Magic Drum หรือ Twelve Gifts for Santa Claus Kunnas พาผู้อ่านเข้าไปในหมู่บ้านเล็กๆ กลางหิมะในแลปแลนด์ ที่ซึ่งซานต้าและเหล่าเอลฟ์ทำงานวุ่นวาย เตรียมของขวัญให้เด็กทั่วโลก

เขาวาดให้เห็นระบบจัดการของขวัญ ห้องเก็บจดหมาย แผนผังบ้านของซานต้า เครื่องซักผ้าของคุณนายซานต้า ยันโรงซ่อมเลื่อนกวางเรนเดียร์ ทุกอย่างมีระบบ มีชีวิต และ เป็นไปได้จริง

“ผมไม่อยากให้ซานต้าเป็นแค่ตัวละครในนิทาน ผมอยากให้เด็กๆ เชื่อว่าเขาเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำงานหนัก เพื่อสร้างความสุขให้คนอื่น”

และนั่นคือความมหัศจรรย์ของงานชุดนี้ มันไม่ได้แค่เล่าเรื่อง แต่ “สร้างโลก” ที่เด็กอยากไปอยู่ด้วยจริงๆ มองเห็นว่าซานต้าไม่ใช่เทพจุติ แต่คือคนทำงานหนักเพื่อส่งมอบความสุขให้กับเด็กๆ 

และตัวเขาเองก็เช่นกัน 

📚 ภาษาภาพที่มีความหมาย: สนุกก่อน แล้วความรู้จะตามมา

Mauri Kunnas ไม่ได้เขียนหนังสือเด็กเพื่อสอนตรงๆ เขาเชื่อว่าเด็กเรียนรู้ดีที่สุดจากความสนุกและการสำรวจ

หนังสือของเขาไม่เร่ง ไม่เทศนา แต่เต็มไปด้วยรายละเอียดให้ค้นหา
ทุกหน้าเต็มไปด้วยชีวิต ทั้งตัวละครหลัก ตัวประกอบ ฉากหลัง อารมณ์ และความขบขันเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ เขาเล่าว่า “ผมอยากให้เด็กใช้เวลาอยู่กับหนังสือ อยากให้เขาค้นพบสิ่งใหม่ทุกครั้งที่เปิดอ่านซ้ำ” และนั่นคือเหตุผลที่ผลงานของเขายังคง “อยู่” บนชั้นหนังสือของหลายบ้าน ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

💻 เมื่อดินสอเปลี่ยนเป็นดิจิทัล: โลกใหม่ที่วาดง่าย แต่จบยาก

ในยุคที่โลกเปลี่ยนไปสู่ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ งานวาดภาพประกอบก็ไม่ต่างกัน หลายคนอาจคิดว่า Mauri Kunnas ในฐานะศิลปินรุ่นเก๋า คงยึดมั่นกับสีน้ำและกระดาษเท่านั้น

แต่คำตอบจากเจ้าตัวกลับตรงกันข้าม “ตอนนี้ผมใช้ดิจิทัลวาดอยู่บ้าง มันสะดวกขึ้นเยอะ ง่ายกว่ามาก” เขาพูดพร้อมหัวเราะเล็ก ๆ ก่อนจะเสริมด้วยประโยคที่ทำให้เราหยุดคิด “…แต่กลับใช้เวลามากกว่าสมัยก่อนซะอีก”

ในอดีต เมื่อเขาวาดด้วย สีน้ำและกระดาษ ทุกจังหวะต้องแม่นยำ ทุกสัดส่วนต้องคิดเผื่อไว้ล่วงหน้า เพราะ “ผิด” คือ “ต้องเริ่มใหม่” การลงสีน้ำไม่เปิดโอกาสให้แก้ตัวได้มากนัก จึงบังคับให้เขาต้อง ตั้งใจและวางแผนอย่างละเอียด

แต่เมื่อหันมาใช้ดิจิทัล แม้จะคล่องตัวกว่า แก้ไขได้ง่าย และเปิดโอกาสให้ทดลองได้มากขึ้น แต่กลับนำมาซึ่ง “กับดักของการแก้ไม่รู้จบ”แต่กลับนำมาซึ่ง “กับดักของการแก้ไม่รู้จบ” 

“พอรู้ว่ากด Undo ได้ มันเลยทำให้ผมแก้แล้วแก้อีก ไม่มีวันพอใจซักที… กลายเป็นใช้เวลามากกว่าตอนใช้สีน้ำด้วยซ้ำ”

Kunnas ยอมรับว่าเทคโนโลยีใหม่ช่วยขยายความเป็นไปได้ของศิลปินในแง่เทคนิค แต่มันก็เปลี่ยนธรรมชาติของการตัดสินใจไปโดยสิ้นเชิง จากเดิมที่ทุกจุดต้องคิดให้รอบคอบก่อนลงมือ กลายเป็น “ค่อยแก้ไปทีหลังก็ได้”

และนั่นเอง ที่ทำให้เขายังคง ให้คุณค่ากับความผิดพลาดที่ไม่แก้ไขได้ง่ายๆ  เพราะบางครั้ง ความไม่สมบูรณ์…ก็ทำให้งานสมบูรณ์ในแบบที่มนุษย์เท่านั้นทำได้

🎨 Tarja Kunnas: ครู คู่ชีวิต และคู่สร้างโลกนิทาน

เบื้องหลังภาพประกอบสวยงามทุกหน้าในหนังสือของ Mauri Kunnas มีอีกหนึ่งคนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ Tarja Kunnas ภรรยาของเขา ผู้มีอาชีพหลักเป็นครู และเป็น “มือขวา” ที่ช่วยเขาลงสีในหนังสือเกือบทุกเล่ม

แม้เราจะเห็นผลงานที่ทั้งสองร่วมกันสร้างสรรค์ออกมา  แต่ทั้งสองก็ยอมรับตรงๆ ว่า การทำงานร่วมกันในฐานะ “สามีภรรยา” ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
Tarja:  “จริงๆ เราไม่ค่อยทะเลากันนะ

Mauri :  “เราทะเลาะกันตลอดนั่นแหละ” Mauri ขัดภรรยาของเขาบนเวที “แต่เป็นการทะเลาะที่สร้างงานดีๆ ออกมาเสมอ”

สิ่งหนึ่งที่น่ารักและน่าสนใจคือ เมื่อทำงานด้วยกันมาหลายสิบปี ทั้งสองได้พัฒนา “ภาษาลับ” ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เช่น การตั้งชื่อเล่นเฉพาะให้กับเฉดสีต่างๆ ที่ใช้เป็นประจำ
“บางทีผมก็พูดว่า ‘ใช้สีฟ้าเมฆเช้าตรู่สิ’ แล้วเธอก็รู้ทันทีว่าหมายถึงสีไหน”
“มันเป็นภาษาที่แค่เราสองคนเข้าใจ ซึ่งตอนนี้ถ้าเป็นคนอื่นก็คงหยิบไม่ถูก”

👨‍👩‍👧‍👧 ส่งต่อแรงบันดาลใจถึงรุ่นถัดไป

เมื่อชีวิตคู่ผูกพันกับการเล่าเรื่อง ทุกวันในบ้านของ Mauri และ Tarja Kunnas จึงไม่ใช่แค่พื้นที่อยู่อาศัย แต่คือเวิร์กช็อปเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยสมุดสเก็ตช์ ดินสอสี และบทสนทนาเรื่องตัวละครกับโทนแสงในฉากหิมะ

ลูกสาวทั้งสองคนของพวกเขา Jenna และ Noora Kunnas เติบโตมาในโลกที่งานสร้างสรรค์เป็นของธรรมดา หนังสือภาพไม่ใช่แค่ของอ่านก่อนนอน แต่เป็นของใช้ประจำวันในบ้าน และแน่นอนความรักในการเล่าเรื่องก็กลายเป็นบางสิ่งที่ “สืบทอดโดยไม่ต้องสั่งสอน”

Noora Kunnas ลูกสาวคนเล็กของทั้งคู่ ได้กลายมาเป็นนักเขียนวรรณกรรมเยาวชนในฟินแลนด์ โดยมีผลงานของตัวเองที่ได้รับการตอบรับอย่างดี เธอเลือกเส้นทางการเขียนแบบร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายของอารมณ์ขันและจินตนาการที่เธอคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก

การที่ลูกของศิลปินยังคงเดินบนทางสร้างสรรค์แบบเดียวกัน ไม่ใช่เพราะต้องสืบทอดอะไร แต่เพราะเขารู้สึก “ผูกพัน” กับความสุขที่เห็นผู้คนยิ้มจากเรื่องที่เขาเล่า

เรื่องเล่าเล็กๆ ที่คงอยู่ได้นานกว่าเสียงปรบมือ

ในขณะที่โลกของการ์ตูนและวรรณกรรมเด็กเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วตามเทคโนโลยีและความนิยม ผลงานของ Mauri Kunnas ยังคงยืนหยัดอยู่ด้วยพลังที่ไม่หวือหวาแต่ลึกซึ้ง

ความรักในการเล่าเรื่อง และความเชื่อมั่นในผู้อ่านตัวน้อยทำให้เขายังคงทำงานสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง และเสียงดังไกลข้ามโลกมาจนถึงบ้านเรา

จากแพะขี้ละเมอในโลกของ Mr. Clutterbuck
ถึงหมู่บ้านลับของซานตาคลอสที่เต็มไปด้วยรายละเอียด


จากโต๊ะวาดภาพในบ้านกลางป่าในฟินแลนด์
ถึงงานสัปดาห์หนังสือท่ามกลางอากาศร้อนของกรุงเทพฯ

Mauri และ Tarja Kunnas ได้พาเราย้อนกลับไปหาความสุขเรียบง่ายที่อยู่ในรายละเอียด 

พาเรากลับไปนึกถึงความตื่นเต้นเวลาเปิดหนังสือเล่มโปรด
และเตือนเราว่า…บางครั้ง สิ่งที่ดีที่สุดที่ผู้ใหญ่จะทำให้เด็กได้

อาจไม่ใช่ “สอนให้รู้เยอะ”
แต่อาจเป็นแค่ “เล่าเรื่องดีๆ แล้วให้เขาหัวเราะไปด้วยกัน”

และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาทำได้อย่างงดงามมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา

Writer
Avatar photo
Admin Mappa

illustrator
Avatar photo
Arunnoon

มนุษย์อินโทรเวิร์ตที่อยากสื่อสารและเชื่อมโยงกับผู้คนผ่านภาพวาด

Photographer
Avatar photo
ชัชฐพล จันทยุง

หลงรักการบันทึกรอยยิ้มและความรู้สึกเป็นภาพถ่าย

Related Posts

Related Posts