Love Me, Love My cat “เมี้ยว!” คำยืนยันระหว่างสายสัมพันธ์ของฉันและสัตว์เลี้ยง

Love Me, Love My cat “เมี้ยว!” คำยืนยันระหว่างสายสัมพันธ์ของฉันและสัตว์เลี้ยง

พาดเเตเนอนออิิ่้เดกสำรหรไสไสำำน เมี้ยววววว

(หวัดดีนุด นี่คือคำทักทายจาก ‘จู๊ด’ แมวหนุ่มหล่อล่ำพร้อมขย้ำหัวใจคุณ)

หลายคนที่เลี้ยงแมวอาจเคยมีประสบการณ์คล้ายกันกับฉัน ตื่นเช้ามาด้วยแสงอรุณที่แยงตาและอุ้งเท้าของแมวที่เหยียบเข้าที่ใจ ทาสอย่างเราๆ สิ่งที่ทำหลังลุกจากเตียงอาจเป็นการเดินไปเทอาหารและน้ำให้แมวก่อนที่จะอาบน้ำตัวเองเสียด้วยซ้ำ รอยแขนขาตามตัวอันเกิดจากการที่พวกเขาเล่นซน ไหนจะขนที่อาจติดไปตามเสื้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสีเสื้อที่เราชอบใส่และสีขนของเขานั้นเป็นขั้วตรงข้ามกัน (ดังเช่นฉันที่ชอบใส่เสื้อสีดำเป็นอาจิณ แต่มีรูมเมทร่วมห้องเป็นแมวขนยาวสีขาวบริสุทธิ์)

“จู๊ดเหมือนไปกับเธอทุกที่เลย” มิตรสหายคนหนึ่งทัก

คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมหลายคนชอบเลี้ยงสัตว์

และเพราะอะไร ‘แมว’ จึงเป็นสัตว์ที่ได้รับความรักจากคนมากนัก

วันนี้ขอฉันพาคุณไปรู้จักอะไรแมวๆ ให้มากขึ้น ผ่าน ‘เจ้าจู๊ด’ แมวขาวตัวอ้วนที่จะมาแบ่งปันความเป็นแมว และสายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเราหนึ่งคนหนึ่งแมวในตลอดเวลากว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา

1.

จากแมวแปลกหน้า กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว

ฉันและจู๊ดได้พบกันตอนฉันใกล้จบปี 4 ที่มหาวิทยาลัย จู๊ดเป็นแมวจรจัดที่ฉันรับมาเลี้ยงโดยที่ตอนนั้นก็ไม่เคยมีประสบการณ์ในการเลี้ยงสัตว์ หรือกระทั่งดูแลคนอื่นมากนัก เรียกได้ว่าเราใหม่กันทั้งคู่

วันแรกที่พบกันคืนนั้นฝนตกหนักตามฤดูกาล เจ้าแมวตัวน้อยนอนสั่นงกๆ คงเพราะทั้งหนาวและกลัวเสียงฟ้าร้อง เพื่อเป็นการปลอบประโลมเขาจึงทำให้ฉันตัดสินใจทำอะไรที่ไม่ได้ทำมานานแล้ว

“Hey Jude, don’t be afraid.”

ใช่แล้ว ฉันร้องเพลงและปลอบกอดเขาในวันนั้นก่อนที่จะผล็อยหลับไปพร้อมกันกับเจ้าแมวตัวจ้อย

เขาจึงชื่อ ‘จู๊ด’ ตั้งแต่นั้นมา

และพร้อมปลุกฉันด้วยเสียง Purr เสียงครืดคราดราวกับเครื่องยนต์ในทุกๆ เช้าก่อนออกไปเรียนและทำงาน

จู๊ดอยู่กับฉันในหลายช่วงเวลาที่สำคัญของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตอนเปลี่ยนหัวข้อธีสิส ช่วงระหว่างการทำธีสิสเพื่อให้เรียนจบให้ได้ ตอนส่งธีสิสใน 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ตอนได้การตอบรับเข้าทำงานประจำครั้งแรก ตอนที่ซึมเศร้าเสียใจ หรือมีความกังวลใดๆ เขามักจะเป็นผู้รับฟังที่ดีเสมอ

การนอนนิ่งๆ ให้กอดแบบไม่พูดอะไร

ยื่นอุ้งเท้ามานวดแมวให้ตอนเห็นเราคิ้วขมวด

เลียหน้าเช็ดน้ำตาให้

และอื่นๆ อีกมากมาย

ทั้งหมดนี้ทำให้ฉันมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ‘ภาษา’ ไม่ใช่กำแพงระหว่างเรา เพราะถึงเราจะพูดคนละภาษากัน แต่เรามีผัสสะอื่นๆ ที่ทำให้เราเข้าใจกันได้ แม้ว่าจะไม่ต้องกล่าวออกมาเป็นคำพูดใดๆ เลยก็ตาม

2.

“เราคือโลกทั้งใบของเขา” (และเขาก็คือโลกทั้งใบของเราเช่นกัน)

“ถึงเราจะบอกว่าตัวเองติดบ้านขนาดไหน แต่เราก็ยังได้ออกมาข้างนอกเพราะต้องทำงาน พบปะเพื่อนฝูง เราก็ยังมีโลกของเรา

แต่แมวที่รอเรากลับบ้านเขามีเราเป็นโลกทั้งใบนะ”

หนึ่งประโยคยาวๆ จากพี่คนหนึ่งทำให้ฉันฉุกคิด

คิดว่าที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นจริงมากๆ ฉันไม่เคยนึกถึงในมุมเขาเลย

ด้วยเพราะว่าฉันเลี้ยงจู๊ดแบบปิดเพราะอาศัยที่อะพาร์ตเมนต์ไม่ใช่บ้าน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันไม่เคยปล่อยเขาออกไปไหนเลย เพราะกลัวว่าจะเป็นอันตราย

อีกอย่างหนึ่ง จู๊ดเป็นแมวที่ค่อนข้างขี้กลัว ตกใจง่าย เลยทำให้เขาเองก็ดูไม่ค่อยอยากออกไปไหนเท่าไร

เท่ากับว่าเป็นฉันเองที่เขาไว้ใจที่สุด

ประโยคนั้นทำให้ฉันยิ่งรักและเอ็นดูเขามากขึ้นมากๆ 

3.

ถึงแม้มองไม่เห็น แต่สัมผัสได้ถึง ‘สายสัมพันธ์’ ระหว่างเรา

หลายครั้งหลายคราที่ฉันต้องไปทำธุระที่อื่นหลายๆ วันจึงทำให้ต้องไปฝากเขาที่โรงแรมแมวบ้าง บ้านเพื่อนบ้าง แต่ทุกคนที่ฉันพาเขาไปฝาก ทุกคนก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาเป็นแมวที่น่ารักน่าเอ็นดูและติดคนมากๆ เป็นแมวที่ชอบอยู่กับมนุษย์ (ถึงแม้ว่าจะกลัวแมวด้วยกันมากขนาดไหน)

หากให้นิยามสายสัมพันธ์ระหว่างฉันและแมวตัวนี้ ฉันคิดว่าความรักนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่ฉันในฝ่ายผู้เป็นที่รัก ก่อนที่จะส่งต่อไปถึงจู๊ดที่เป็นผู้ที่ถูกรัก

และเมื่อรักเราเท่ากัน จึงเกิดเป็น ‘สายสัมพันธ์’ อันแน่นแฟ้นที่ถึงแม้มองไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่าง แต่สัมผัสได้ถึงกันอยู่เสมอ

“สุขสันต์วันเกิดนะเจ้าจู๊ด ขอให้เอ็งและแม่อยู่ดูแลกันและกันไปนานๆ”

คำอวยพรวันเกิดที่มิตรสหายคนหนึ่งที่อวยพรให้ในวาระครบรอบอายุขวบปีของเจ้าแมวไซซ์หมา และนั่นเป็นสิ่งที่ฉันคิดว่าตั้งใจจะทำ เพื่อให้สายสัมพันธ์ระหว่างเราเป็นนิรันดร์ตลอดไป

Writer
Avatar photo
รุอร พรหมประสิทธิ์

หนังสือ ไพ่ทาโรต์ กาแฟส้ม แมวสามสี และลิเวอร์พูล

illustrator
Avatar photo
สิริกร พรอนงค์

ดีไซน์เนอร์, นักวาด และอาร์ตไดมือใหม่ที่ชอบไปทะเล

Related Posts

Related Posts