

พ่อแม่กับการเป็น ACTIVE CITIZEN : พลังพ่อแม่ Homeschool กับการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย
พ่อแม่กับการเป็น ACTIVE CITIZEN : พลังพ่อแม่ Homeschool กับการขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย
หนึ่งในการเคลื่อนไหวสำคัญที่พ่อแม่ลุกขึ้นมารวมตัวและขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาไทย คือการเคลื่อนไหวของการจัดการศึกษาโดยครอบครัว หรือ Homeschool ซึ่งหากย้อนกลับไปราว 30 ปีที่แล้ว การจัดการศึกษาโดยครอบครัวไม่ได้รับการยอมรับอย่างง่ายดายทั้งในเชิงทัศนคติ หรือการตีความพระราชบัญญัติที่เป็นตัวบทกฎหมายที่ทำให้การจัดการศึกษาโดยครอบครัวนั้นเกิดขึ้นได้จริง อุปสรรคในครั้งนั้นทำให้พ่อแม่จำนวนหนึ่งที่มีความคิดก้าวหน้าและมีความสนใจในการศึกษาที่หลากหลาย ลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลง
จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง : เครือข่ายบ้านเรียนไทยกับการผลักดันพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542
ในช่วงก่อนปี พ.ศ. 2542 การจัดการศึกษาโดยครอบครัวในประเทศไทยยังไม่มีสถานะทางกฎหมาย พ่อแม่ที่ต้องการจัดการศึกษาเองให้กับลูกต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและขาดการรับรองวุฒิการศึกษา แต่ก็มีการเริ่มรวมตัวกันเป็น “เครือข่ายบ้านเรียนไทย” เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และหาแนวทางในการได้รับการยอมรับจากภาครัฐ
พ่อแม่ในเครือข่ายบ้านเรียนไทยใช้กลยุทธ์หลายอย่างในการขับเคลื่อน เช่น การสร้างองค์ความรู้และเผยแพร่ข้อมูล โดยรวบรวมข้อมูลวิจัยและกรณีศึกษาความสำเร็จของ Homeschool จากต่างประเทศ การเขียนหนังสือหรือการจัดพิมพ์หนังสือและเอกสารเผยแพร่เกี่ยวกับแนวคิดและวิธีการจัดการศึกษาโดยครอบครัว การจัดวงเสวนาเกี่ยวกับบ้านเรียน การประสานงานกับนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาให้ช่วยสนับสนุนทางวิชาการ
การเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องของเครือข่ายบ้านเรียนไทยนำไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญคือ การบรรจุสิทธิในการจัดการศึกษาโดยครอบครัวไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 12 ที่ระบุว่า:
“นอกเหนือจากรัฐ เอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้บุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น มีสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน”
นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่พ่อแม่ ในฐานะ Active Citizen สร้างการเปลี่ยนแปลงในการศึกษาไทยได้เป็นครั้งสำคัญ และทำให้การจัดการศึกษาโดยครอบครัวได้รับการรับรองตามกฎหมายเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
จากกฎหมายสู่การปฏิบัติ : การผลักดันกฎกระทรวงว่าด้วยการจัดการศึกษาโดยครอบครัว
แม้จะมีการรับรองสิทธิในพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติแล้ว แต่ในทางปฏิบัติ พ่อแม่ที่ต้องการจัดการศึกษาโดยครอบครัวยังประสบปัญหาเนื่องจากขาดแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ในครั้งนั้น นอกจากเครือข่ายบ้านเรียนแล้วยังมีพันธมิตรจากมูลนิธิการศึกษาทางเลือก ที่รวมตัวกันผลักดันให้เกิดกฎกระทรวงเฉพาะสำหรับการจัดการศึกษาโดยครอบครัว
แนวทางการทำงานในครั้งนั้นมีหลายประการ เช่น:
- การศึกษาระเบียบปฏิบัติของต่างประเทศและนำมาปรับให้เข้ากับบริบทไทย
- การทำวิจัยและรวบรวมข้อมูลการจัดการศึกษาโดยครอบครัวที่ดำเนินการอยู่แล้ว
- การจัดทำข้อเสนอร่างกฎกระทรวงโดยมีนักกฎหมายและนักวิชาการให้คำปรึกษา
- การจัดประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการและสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)
การเคลื่อนไหวในครั้งนั้นเกิดขึ้นเมื่อเริ่มมีครอบครัวที่จัดการศึกษาโดยครอบครัวมาแล้วระยะหนึ่ง การสร้างการมีส่วนร่วม และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างครอบครัวบ้านเรียนที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศไทย ก็มีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเช่นกัน
ในหลายพื้นที่ที่แม้กฎหมายอนุญาตแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ภาครัฐไม่เข้าใจแนวปฏิบัติ พ่อแม่ที่ต้องการจัดการศึกษาแบบบ้านเรียนก็ไม่สามารถจัดได้ หรือจัดไปแล้วบางพื้นที่ไม่สามารถช่วยครอบครัวประเมินผลเด็กได้ และนำไปสู่แนวปฏิบัติที่ไม่ชัดเจน และไม่มีการสนับสนุนจากภาครัฐให้กับพ่อแม่ที่ต้องการจัดการศึกษาให้ลูก
จากความพยายามในครั้งนั้น ส่งผลให้มีการออกกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ. 2547 ซึ่งกำหนดแนวปฏิบัติที่ชัดเจนสำหรับการขออนุญาต การจัดทำแผนการศึกษา การวัดและประเมินผล และการรับรองวุฒิการศึกษา ทำให้ครอบครัวที่ต้องการจัดการศึกษาเองมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนและได้รับการยอมรับตามกฎหมาย
เด็กทุกคนไม่เหมือนกัน การศึกษาย่อมต้องตอบความหลากหลาย: เครือข่ายบ้านเรียนภาคใต้กับการแก้ไขอุปสรรคในพื้นที่พหุวัฒนธรรม
แม้ว่ามีกฎหมายที่สามารถจัดการศึกษาโดยครอบครัวได้แล้ว มีแนวปฏิบัติแล้ว แต่ภายใต้สังคมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การจัดการศึกษาที่จะตอบโจทย์ความหลากหลายนี้ได้ ยังคงเป็นความท้าทายในทุกยุคสมัย กรณีกลุ่มพ่อแม่มุสลิม และเครือข่ายบ้านเรียนภาคใต้ ลุกขึ้นมาชวนมองการส่งเสริมการจัดการศึกษาที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต หลักศาสนา และบริบทวัฒนธรรม
แนวทางการเคลื่อนไหวของ “เครือข่ายบ้านเรียนภาคใต้” มีหลายแนวทาง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การมุ่งสร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่รัฐ เขตพื้นที่การศึกษาและสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด การเชิญผู้นำศาสนาเข้าร่วมเวทีสนทนากับหน่วยงานทางการศึกษาเพื่อสร้างความเข้าใจ การระดมความคิดเห็นจากครอบครัวบ้านเรียนมุสลิมและผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาอิสลาม เพื่อพัฒนาแนวทางการจัดทำแผนการศึกษาที่บูรณาการสาระวิชาตามหลักสูตรแกนกลางกับการศึกษาตามหลักศาสนา การจัดทำคู่มือสำหรับครอบครัวบ้านเรียนมุสลิมในการเตรียมเอกสารและหลักฐานการวัดและประเมินผล
ความสำเร็จครั้งนั้นคือการสร้างแนวปฏิบัติเฉพาะสำหรับการจัดการศึกษาโดยครอบครัวในพื้นที่พหุวัฒนธรรม ของเครือข่ายบ้านเรียนภาคใต้ และมีการจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันระหว่างเขตพื้นที่การศึกษาและเครือข่ายบ้านเรียนภาคใต้ เพื่อกำหนดกรอบการจัดการศึกษาที่ยืดหยุ่นและเคารพความแตกต่างทางวัฒนธรรม ส่งผลให้จำนวนครอบครัวที่จัดการศึกษาเองในพื้นที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การผลักดันพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่: ปฏิรูประบบการศึกษาทางเลือก
ในช่วงปี พ.ศ. 2560-2564 เมื่อมีการเริ่มกระบวนการร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ เครือข่ายพ่อแม่ผู้จัดการศึกษาโดยครอบครัวนำโดยสมาคมบ้านเรียนไทยและมูลนิธิเครือข่ายการศึกษาทางเลือก ได้ร่วมกันผลักดันให้มีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษาโดยครอบครัวอย่างเป็นระบบมากขึ้น
การเคลื่อนไหวในครั้งนี้มีความก้าวหน้าอย่างชัดเจน จากประสบการณ์ในหลากหลายครั้งที่ผ่านมา ตัวแทนพ่อแม่บ้านเรียนได้รับเชิญให้เป็นคณะทำงานในการยกร่างพ.ร.บ.มีการนำเสนอร่างมาตราเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาโดยครอบครัวโดยมีการศึกษาวิจัยรองรับ มีการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ เช่น ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรระหว่างประเทศที่สนับสนุนการศึกษาทางเลือก หรือการสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจที่สนใจกระบวนการพัฒนาทักษะที่หลากหลาย และประสานงานกับนักการเมืองและพรรคการเมืองที่สนับสนุนนโยบายการกระจายอำนาจทางการศึกษา
ตัวอย่างประเด็นที่เครือข่ายผลักดันในร่างพ.ร.บ.ฉบับใหม่ ได้แก่:
- การสนับสนุนงบประมาณสำหรับการศึกษาทางเลือก: ระบบงบประมาณที่เป็นธรรมสำหรับเด็กทุกคนไม่ว่าจะเลือกรูปแบบการศึกษาใด
- การลดขั้นตอนและกระบวนการทางราชการ: ลดความซับซ้อนในการขออนุญาตและการรายงานผล
- การส่งเสริมนวัตกรรมการศึกษา: เปิดโอกาสให้ครอบครัวพัฒนาวิธีการและเนื้อหาการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์
- การรับรองผลการเรียนและคุณวุฒิ: ให้เด็กบ้านเรียนได้รับการรับรองคุณวุฒิที่เทียบเท่ากับระบบโรงเรียน
- การจัดตั้งศูนย์สนับสนุนการเรียนรู้: จัดตั้งหน่วยงานเฉพาะที่ให้คำปรึกษาและสนับสนุนครอบครัวบ้านเรียน
แม้ว่าร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา แต่ความพยายามของพ่อแม่ Active Citizen ได้ส่งผลให้ประเด็นการศึกษาทางเลือกและการจัดการศึกษาโดยครอบครัวได้รับความสนใจและการพิจารณาอย่างจริงจัง มีการบรรจุหลักการสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมการศึกษาทางเลือกไว้ในร่างกฎหมาย และมีแนวโน้มที่จะมีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนมากขึ้น
บทเรียนความสำเร็จจากพ่อแม่ Homeschool ในฐานะพ่อแม่ ที่เป็น Active Citizen
จากกรณีศึกษาทั้งหมด เราเห็นได้ว่าพ่อแม่บ้านเรียนที่ลุกขึ้นมาเป็น Active Citizen สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายในระบบการศึกษาได้ ด้วยความมุ่งมั่นและกลยุทธ์ที่เหมาะสม นี่คือบทเรียนสำคัญสำหรับพ่อแม่ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของประเทศจากความสำเร็จของโฮมสคูลในไทย:
- การรวมกลุ่มสร้างพลัง: พลังการเปลี่ยนแปลงเกิดจากการรวมตัวของพ่อแม่หลายครอบครัวที่มีเป้าหมายร่วมกัน แม้จะเริ่มต้นจากกลุ่มเล็กๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นและการทำงานอย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างผลกระทบระดับนโยบายได้
- การทำงานบนฐานข้อมูลและความรู้: ความสำเร็จไม่ได้มาจากการเรียกร้องโดยใช้อารมณ์ แต่มาจากการนำเสนอข้อมูล งานวิจัย และกรณีศึกษาที่น่าเชื่อถือ พ่อแม่ได้พัฒนาตนเองให้มีความรู้ในประเด็นที่ต้องการผลักดันอย่างลึกซึ้ง
- การทำงานเชิงรุกและสร้างสรรค์: แทนที่จะรอให้ภาครัฐมาแก้ปัญหา พ่อแม่ได้เสนอทางออกและแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ร่างข้อเสนอที่พร้อมนำไปใช้ และสร้างตัวอย่างความสำเร็จให้เห็น
- การสร้างพันธมิตรที่หลากหลาย: การทำงานร่วมกับนักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน สื่อมวลชน และหน่วยงานภาครัฐที่เห็นด้วย ช่วยเพิ่มน้ำหนักและความน่าเชื่อถือให้กับการเคลื่อนไหว
- ความอดทนและมุ่งมั่นในระยะยาว: การเปลี่ยนแปลงนโยบายการศึกษาไม่ได้เกิดขึ้นชั่วข้ามคืน แต่เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลายาวนาน พ่อแม่ Active Citizen ต้องมีความอดทนและมุ่งมั่นต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
ความสำเร็จของขบวนการ Homeschool ในประเทศไทยเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของพลังพ่อแม่ Active Citizen ที่สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรมในระบบการศึกษา บทเรียนและประสบการณ์จากการเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงมีคุณค่าสำหรับครอบครัวบ้านเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจสำหรับพ่อแม่ทุกคนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาของลูกและประเทศชาติ
เรายังมีอีกหลากหลายความเคลื่อนไหวที่ต้องอาศัยพลังจากพ่อแม่ที่เป็น Active Citizen ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ ที่ใกล้เข้าสู่การพิจารณาอย่างเต็มที่ หรือ พ.ร.บ.ปฐมวัย ที่เชื่อมั่นว่าการสร้างรากฐานของเด็กปฐมวัยนั้นสำคัญอย่างยิ่งต่อการเปลี่ยนแปลงคุณภาพประชากรไทย หรือคุณภาพชีวิตอื่นๆ เช่น การเรียกร้องให้เกิด พ.ร.บ.อากาศสะอาด สิ่งเหล่านี้อาศัยพลังพ่อแม่ที่ต้องการเห็นโลกที่ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อลูก
Writer

Admin Mappa
illustrator

Arunnoon
มนุษย์อินโทรเวิร์ตที่อยากสื่อสารและเชื่อมโยงกับผู้คนผ่านภาพวาด