Our beloved summer : ช่วงเวลาอันแสนอบอุ่นของฉันกับเธอ
Our beloved summer : ช่วงเวลาอันแสนอบอุ่นของฉันกับเธอ
- กลิ่นไอของความรู้สึกอบอุ่นที่ซ่อนลึกอยู่ภายในจิตใจจากตัวตนของเราที่มีใครคนหนึ่งอาศัยอยู่
- ความทรงจำที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสุข ความเศร้า หรือความรู้สึกอบอวน ที่ผสมคละคลุ้งกันจนแยกไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกอะไรของผู้เป็นเจ้าของความทรงจำ
- Our belove summer ซีรีส์เกาหลีเยียวยาหัวใจบอบช้ำบอกเล่าเรื่องราวชีวิตวัยหนุ่มสาว ที่ค่อย ๆ ผูกพัน เรียนรู้ พัฒนา และมองโลกผ่านการอยู่ร่วมกันในชีวิตประจำวัน ความสัมพันธ์ที่พัฒนาเป็นความรัก และความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปสู่การจากลา แล้วกลับมาพบกันในวันที่เติบโต
เรื่องย่อ
“นักเรียนคะแนนดีประจำโรงเรียน และเจ้าทึ่มหัวทึบในโรงเรียน ต้องมาอยู่ร่วมกันตลอดหนึ่งเทอม” เป็นรายการสารคดีช่องโทรทัศน์เกาหลีที่อยากนำเสนอมุมมองจากคนสองคนที่แตกต่างกันราวกับชั้นบนและชั้นล่างของคนที่ได้ชื่อว่าเก่งสุด ๆ กับคนที่ไม่เก่งเลย เขาจะใช้ชีวิตด้วยกันอย่างไร และจะมีวิธีการจัดการอย่างไร สารคดีพาตามติดกิจวัตรประจำวันของเด็กมัธยมปลายที่มีช่วงวัยอันสดใส ของ กุกยอนซู สาวน้อยเรียนดี แต่บกพร่องด้านการเข้าสังคม และ ชเวอุง หนุ่มน้อยอ่อนวิชาการ แต่มีใจรักในการวาดรูปทั้งคู่ต้องมาเข้าคู่ถ่ายสารคดีนี้ร่วมกัน และการงานครั้งนี้เปลี่ยนแปลงพวกเขาจากแรกเริ่มที่ไม่ชอบหน้าจนพัฒนากลายไปเป็นความรัก
ความรู้สึกที่ไม่สามารถพูดออกไปให้คนรอบข้างฟังได้
“ยอนซูไปร้านค้ากัน”
คำชวนของเพื่อนคนหนึ่งที่ชวนเพื่อนอีกคนด้วยความหวังดีและจริงใจ แต่ในสถานการณ์ดังกล่าวยอนซูได้ตอบปฏิเสธไป ทำให้เพื่อนไปกับคนอื่นแทน และได้ว่ากล่าวถึงกุกยอนซู พร้อมนินทาเธอด้วยความไม่รู้ว่า กุกยอนซู มีสาเหตุอะไรภายในใจถึงเลือกปฏิเสธไปแบบนั้น
“ฉันเกลียดความจน เพราะมันทำให้ฉันมีน้ำใจกับคนอื่นไม่ได้”
ความรู้สึกของ กุกยอนซู ที่ต้องการเข้าหาเพื่อนในช่วงมัธยมต้น แต่ต้องพบกับความผิดหวัง เนื่องจากความจน ภาระทางบ้าน และหน้าที่ของนักเรียนทุน เมื่อเด็กคนหนึ่งที่ไม่ได้เกิดมากับความเท่ากันของฐานะทางเศรษฐกิจรวบรวมความกล้าที่จะเข้าหาสังคมเพื่อนในโรงเรียน ในบางครั้งสิ่งที่เจอแล้วแบกรับเอาไว้ มันก็ยากที่จะแสดงออกมาให้คนรอบข้างรับฟัง เพราะกลัวการถูกตัดสิน
ชีวิตสำเร็จได้ด้วยการละทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง ?
ชเวอุงถามไถ่กุกยอนซู ด้วยสีหน้าเศร้า
“ทำไมเราต้องเลิกกัน
พอลำบากทีไร เธอทิ้งฉันเป็นอย่างแรกทุกทีเลยนะ
ในบรรดาของที่เธอมี ฉันคือสิ่งที่ทิ้งง่ายที่สุดหรอ”
“ไม่ใช่…สิ่งที่ฉันทิ้งได้มีแค่นายคนเดียว”
กุกยอนซูกล่าวก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
บทพูดนิ่ง ๆ อาจสื่อความหมายคลุมเครือสำหรับใครบางคน แต่สำหรับอีกคนมันคือคำตอบเดียวที่ชัดที่สุดที่สามารถพูดออกไปได้ ความจริงถูกกล่าวออกมาเป็นคำพูดจาง ๆ กดความรู้สึกแท้จริงเอาไว้ที่ไม่สามารถบอกเล่าให้ใครฟังนอกจากตัวเอง เพราะชีวิตไม่ได้มีแต่ความรู้สึก แต่มีปัจจัยอื่น ๆ ร่วม อย่างเช่น ชีวิตความเป็นอยู่ ฐานะ หรือความรู้สึกที่ไม่มั่นคงของตัวเองจนไม่สามารถแบ่งปันสิ่งใดให้ใครได้ มวลความรู้สึกเหล่านี้ทำให้เธอตัดสินใจบอกลาจากใครสักคนเพื่อมอบโอกาสอีกคนได้มีความสุข เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้บุคคลอันเป็นที่รักต้องมามองเห็นส่วนแย่ ๆ ในชีวิตของเธอ
เคยมีครั้งหนึ่งที่ กุกยอนซู ได้ไปเห็น เชวอุง กำลังถูกอาจารย์ศิลปะเชิญชวนไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศด้วยฝีมือวาดรูปของเขา แต่ตัวเขาเองกลับปฏิเสธ เนื่องจากระยะเวลาที่ยาวนาน ทำให้ต้องห่างจากคนรัก แล้วเขาเองก็ไม่ได้ต้องการอะไรยิ่งใหญ่มากในชีวิต
“ความฝันที่คงไม่เป็นความจริง ส่วนของความจริงที่อยากให้เป็นเพียงแค่ฝันร้าย”
ประโยคอธิบายความรู้สึกจริงของ ‘กุกยอนซู’ ที่ต้องมาพบกับความเป็นจริงอันแสนเจ็บปวดของการที่ต้องรับรู้ว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตเหมือนกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน เพราะต้องรับภาระหนี้สินแทนอาซึ่งหนีหายไป ร่วมกับคุณย่าที่อาศัยอยู่ร่วมกันเพียงสองคน
“อันที่จริงเพราะว่าตอนนี้ฉันรับมือกับความจริงตัวเองไม่ไหวด้วยซ้ำ”
ความคุ้นเคยที่หวนให้นึกถึง
“ผมชอบสิ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่คนเปลี่ยนและหายไปตามกาลเวลา
ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีคนและกาลเวลาในงานของผม”
บทสัมภาษณ์เล็ก ๆ ที่เผยความคิดจากหัวใจของ ‘ชเวอุง’ ในนาม
‘โกโอ ศิลปินวาดภาพประกอบสถาปัตยกรรมด้วยจิตวิญญาณ’
ที่กุกยอนซูได้อ่าน ก่อนจะเดินทางไปติดต่อให้มาร่วมโปรเจกต์ด้วยกัน
ซึ่งในครั้งแรกที่ กุกยอนซู เห็นลวดลายการวาดที่คุ้นตา พร้อมความรู้สึกคุ้นเคย
ทำให้เธอนึกถึงใครบางคนในชีวิต เธอจึงนึกคาดเดาไปว่าศิลปินคนนี้ที่เธอตามหาคือใคร และตัดสินใจเดินทางมาติดต่อศิลปินโดยตรง คำตอบที่เธอได้ก็เป็นไปดั่งคาด เขาคือ ชเวอุง หนุ่มน้อยหัวทึ่บแต่มีใจรักในการสร้างสรรค์ศิลปะ ผู้เป็นคนรักเก่าของเธอ
ความรู้สึกเมื่อนึกถึงใครบางคนรื้อความทรงจำของอดีตผ่านสิ่งรอบตัวที่เคยใช้ร่วมกัน การหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง อาจทำให้เรานึกถึงความสุขที่ครั้งหนึ่งเคยเกิดขึ้นจริง หรืออาจจะเป็นความทุกข์แสนขมขื่นที่ยังคงเจ็บปวดทุกครั้งเมื่อนึกถึง แต่สำหรับเรื่องราวนี้มันมีมากกว่า ความรัก ความทรงจำ และช่วงชีวิตที่ดำเนินไป เพราะเรื่องราวยังเจือปนอยู่ในห้วงความรู้สึกของอดีตที่มิอาจลืม
“ปล่อยให้ชีวิตได้เติบโตบนเส้นทางของตัวเองแล้วสักวันหนึ่งหากมีโอกาสเราคงได้กลับมาพบกัน”
Writer
ณัฐนันท์ วิจิตรบุญชูวงศ์
ถ่ายภาพ ชอบดูหนัง ไปนอน และหาของอร่อย
illustrator
ลักษิกา บรรพพงศ์
กราฟิกดีไซน์เนอร์ที่เกิดและเติบโตมาพร้อมกับธุรกิจเพลงเด็ก ติดซีรีส์ ชอบร้องเพลง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และเป็นทาสแมว