‘ขอบคุณที่ทำให้เข้มแข็ง เปราะบาง และได้เห็นแง่งามของชีวิต’ 4 ภาพยนตร์ว่าด้วยสายสัมพันธ์ที่ทำให้เราเติบโต

‘ขอบคุณที่ทำให้เข้มแข็ง เปราะบาง และได้เห็นแง่งามของชีวิต’ 4 ภาพยนตร์ว่าด้วยสายสัมพันธ์ที่ทำให้เราเติบโต

ไม่ว่าจะดีหรือร้าย สายสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนอื่นล้วนส่งผลต่อตัวเราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

บางสายสัมพันธ์ทำให้เราเป็นคนเข้มแข็ง บางสายสัมพันธ์ทำให้เราเห็นจุดเปราะบาง บางสายสัมพันธ์ทำให้เราเห็นแง่งามในความสุขและความเศร้า

ในแง่หนึ่ง ภาพยนตร์คือสิ่งที่สะท้อนชีวิตและโลกความจริง เดือนกุมภาพันธ์ที่ Mappa โฟกัสกับเรื่องสายสัมพันธ์ เราจึงอดไม่ได้ที่จะรวบรวมหนัง Coming of Age ที่ตัวละครได้พบสายสัมพันธ์ซึ่งล้วนส่งผลให้พวกเขาได้เติบโต ไม่ว่าจะเป็นสายสัมพันธ์ครอบครัว สายสัมพันธ์แบบคู่รัก สายสัมพันธ์ของเพื่อน และสายสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง

มากกว่าความบันเทิงที่จะได้รับอย่างเต็มอิ่ม เราเชื่อว่าสายสัมพันธ์ในหนังหลายเรื่องที่ลิสต์มานี้ นอกจากจะส่งผลต่อตัวละครให้ได้เติบโต มันยังทำให้เหล่าคนดูได้เรียนรู้สิ่งสำคัญของชีวิตด้วยเช่นกัน

สายสัมพันธ์ครอบครัว

Little Miss Sunshine (2006)

ถ้านิยามของหนัง Coming of Age คือหนังที่ตัวละครได้เติบโตและเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง Little Miss Sunshine (2006) ก็เข้าสูตรนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

แม่หนู ‘โอลีฟ’ ตัวละครหลักของเรื่องไม่ใช่วัยรุ่นแบบหนัง Coming of Age เรื่องอื่นๆ และเป็นแค่เด็กหญิงธรรมดาผู้มีความฝันอยากเป็นผู้ชนะ ‘ลิตเติลมิสซันไชน์’ นางงามเด็กระดับภูมิภาคซึ่งจัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย  จนครอบครัวของเธอต้องยกโขยงกันนั่งรถตู้ข้ามรัฐมาส่งประกวด พล็อตเรื่องเหมือนจะเป็น Road Movie ทั่วไป แต่ระหว่างทางเราได้เรียนรู้เรื่องราวอันอบอุ่นใจของสมาชิกแต่ละคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้แพ้ในเกมของตัวเอง ทั้งพ่อที่เป็นไลฟ์โค้ชสอนเรื่องการเป็นผู้ชนะแต่จริงๆ ขายงานไม่ออก พี่ชายที่อยากเป็นนักบินแต่ค้นพบว่าเป็นไม่ได้ น้าชายที่พยายามฆ่าตัวตายแต่รอดชีวิตมาได้ หรือคุณปู่ผู้ติดสารเสพติด

มากกว่านั้นการสอดแทรกเรื่องสายสัมพันธ์ครอบครัวที่ทำให้เราหัวเราะร่า น้ำตาเล็ด หนังยังตั้งคำถามกับสิ่งสำคัญในชีวิตอย่างคมคาย ไม่เพียงแต่แม่หนูโอลีฟที่เติบโตอีกหนึ่งขั้นจากการประกวดครั้งนี้ แต่ดูเหมือนสมาชิกทุกคนจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากการเดินทางข้ามรัฐด้วยเช่นกัน

อยากดูอะไรคล้ายๆ กัน : Lady Bird, Boyhood, Turning Red, Inside Out

สายสัมพันธ์คนรัก

The Fault in Our Stars (2014)

บนโลกนี้มีหนัง Coming of Age นับพันเรื่อง แต่ถ้าให้ลิสต์เรื่องที่ติดอันดับต้นๆ ในใจ เราขอยกให้ The Fault in Our Stars (2014)

‘ดาวบันดาล’ สร้างจากนิยายดังของ จอห์น กรีน (John Green) เล่าเรื่อง ‘เฮเซล เกรซ’ (Hazel Grace) หญิงสาวผู้ถูกโรคมะเร็งพรากชีวิตวัยรุ่นไป หลายปีของเฮเซลจึงชินชากับยาเป็นกำๆ การเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน และอาการเจ็บป่วยกายใจที่ต้องทนทุกข์ จนกระทั่งเธอได้เจอกับ ‘ออกัสตัส วอเทอร์ส’ (Augustus Waters) เด็กหนุ่มผู้เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเฮเซลให้สดใส  ทำให้เธอรู้สึกได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นเหมือนหนุ่มสาวคนอื่นๆ มากกว่านั้นคือการทำให้รู้ว่าความรักมีหน้าตาเป็นยังไง

The Fault in Our Stars มอบความอบอุ่น อาการใจเต้นแรง และหยดน้ำตาให้กับคนดู  เหนืออื่นใดคือหนังทำให้เราตระหนักว่าเวลาบนโลกนี้ของเราทุกคนช่างมีจำกัด และในเวลาจำกัดนั้น เราควรจะใช้มันไปกับอะไร หรือใช้ไปกับใคร เหมือนที่เฮเซล เกรซ กับออกัสตัสเลือกใช้เวลาในการบ่มเพาะความสัมพันธ์อย่างคนที่เข้าอกเข้าใจ ทะนุถนอมหัวใจกันและกัน แม้ว่าเวลาที่พวกเขามีร่วมกันจะน้อยนิด แต่สายสัมพันธ์นั้นก็แข็งแกร่งและสร้างอิมแพ็กใหญ่หลวงต่อชีวิตอีกฝ่ายอย่างที่ไม่มีใครจะทำได้อีกแล้ว

อยากดูอะไรคล้ายๆ กัน : Everything, Everything, Love, Simon, Five Feet Apart

สายสัมพันธ์มิตรภาพ

The Perks of Being a Wallflower (2012)

สำหรับเรา The Perks of Being a Wallflower (2012) นับเป็นหนัง (และหนังสือ) ที่ถ่ายทอดชีวิตวัยรุ่นที่มีทั้งสุขและเศร้าได้อย่างสวยงามมากที่สุดเรื่องหนึ่ง

หนังเล่าเรื่องราวของ ‘ชาร์ลี’ (Charlie) เด็กหนุ่มผู้เงียบขรึมที่เป็นเหมือน ‘ดอกไม้บนกำแพง’ เอาแต่สังเกตความเป็นไปตรงหน้า จนกระทั่งเขาได้มารู้จักกับ ‘แซม’ (Sam) และ ‘แพทริก’ (Patrick) ในปีแรกที่เข้าเรียนไฮสกูล แล้วดอกไม้บนกำแพงก็เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง  เริ่มมีลดกำแพงบางอย่างในใจให้คนอื่นๆ ได้เข้ามารู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

“เรายอมรับความรักที่เราคิดว่าเราสมควรจะได้รับมัน” คือประโยคเด็ดที่ใครหลายคนจำได้จากหนังเรื่องนี้ และในทางหนึ่ง มันคือข้อความสำคัญที่เป็นหัวใจของเรื่องด้วย สายสัมพันธ์ของมิตรภาพใน The Perk of Being a Wallflower ทำให้เราเห็นว่าคนหนึ่งคนจะสามารถเบ่งบานได้สวยงามแค่ไหน หากพวกเขาอยู่ท่ามกลางคนที่รักและยอมรับเขาในแบบที่เป็น 

อยากดูอะไรคล้ายๆ กัน : The Half of It, ซีรีส์ Heartstopper, Booksmart, The Edge of Seventeen

สายสัมพันธ์สัตว์เลี้ยง

Hachi: A Dog’s Tales (2009)

พูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่ว่า Hachi: A Dog’s Tale (2009) เป็นหนังวัยรุ่น Coming of Age แต่ถ้ามันพูดถึงสายสัมพันธ์ที่ผูกโยงชีวิตของคนและสัตว์ไว้อย่างแนบแน่น หนังในตำนานที่สร้างจากเรื่องจริง (และหนังเวอร์ชั่นญี่ปุ่นอีกที) เรื่องนี้สามารถนับรวมได้อย่างไม่ต้องสงสัย

ฮาชิโกะ (Hachiko) เป็นสุนัขพันธุ์อาคิตะที่มีชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นในช่วงปี 1923-1935 แต่หนังเรื่องนี้ดำเนินในช่วงปี 1985 โดยโฟกัสไปที่เรื่องราวของ ‘ปาร์เกอร์ วิลสัน’ (Parker Wilson) ศาสตราจารย์ชาวอเมริกันที่พบ ‘ฮาชิ’ (Hachi) สุนัขหลงทางตัวหนึ่งในสถานีรถไฟ เขาเก็บมันมาเลี้ยง และฝึกมันให้รับส่งลูกบอลซึ่งปกติสุนัขพันธุ์อาคิตะจะทำไม่ได้ วันหนึ่งปาร์คเกอร์ต้องขึ้นรถไฟไปสอนที่มหาวิทยาลัย และฮาชิตามไปส่งที่สถานีรถไฟด้วย แต่เจ้าหมาไม่รู้เลยว่านั่นคือครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอเจ้านาย เพราะปาร์คเกอร์ประสบกับภาวะสโตรกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ฮาชิยังไปรอเจ้านายที่สถานีรถไฟทุกวันจนถึงวันที่มันตาย

เรื่องราวของฮาชิกับปาร์คเกอร์ทำให้เราเรียนรู้ว่าความภักดีนั้นช่างเป็นสิ่งที่ทรงพลัง และแม้ว่าจะเป็นสัตว์เลี้ยง แต่เราก็สามารถผูกพันกับพวกเขาได้ไม่ต่างจากผูกพันกับคนด้วยกัน และบางครั้ง สายสัมพันธ์นั้นก็แนบแน่นและแข็งแรงยิ่งกว่าเสียอีก

อยากดูอะไรคล้ายๆ กัน : Marley & Me, A Dog’s Journey, A Dog’s way home

Writer
Avatar photo
พัฒนา ค้าขาย

นักเขียนจากเชียงใหม่ผู้รักทะเลและฤดูหนาวพอๆ กับหนังสุขซึ้ง สนใจประเด็นเรื่องเพศ ความสัมพันธ์ และเรื่องป๊อปทุกแขนง

illustrator
Avatar photo
พรภวิษย์ เพ็งเอียด

ชอบกินเนื้อต้มและตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือให้ได้ปีละสามเล่ม

Related Posts

Related Posts