คุยกับ เฟิส-ณัฎฐาจิตรา ลูกสาวและเจ้าของเพจ ‘จากรุ่นสู่ลูก’ และแม่ใหญ่-ธวัลรัตน์ ลี้สัจจะกูล เพจที่หยิบเสื้อผ้าแม่มาสวมใส่และบันทึกเรื่องราวเอาไว้เพราะไม่อยากให้สายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกเลือนหาย

คุยกับ เฟิส-ณัฎฐาจิตรา ลูกสาวและเจ้าของเพจ ‘จากรุ่นสู่ลูก’ และแม่ใหญ่-ธวัลรัตน์ ลี้สัจจะกูล เพจที่หยิบเสื้อผ้าแม่มาสวมใส่และบันทึกเรื่องราวเอาไว้เพราะไม่อยากให้สายสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกเลือนหาย

วันที่เราพบกับ เฟิส-ณัฎฐาจิตรา ชินารมย์รัตน์ และ แม่ใหญ่-ธวัลรัตน์ ลี้สัจจะกูล เป็นวันแดดจ้า ท้องฟ้ากำลังสดใส 

แต่พูดก็พูดเถอะ ท้องฟ้าก็ยังสดใสได้ไม่เท่าสีชุดที่เฟิสกับแม่ใหญ่ใส่มาเจอเรา

โดยส่วนตัว เรารู้จักเฟิสในฐานะช่างภาพสาวฝีมือดีที่ร่วมงานกันบ่อยครั้ง แต่หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตาเธอในฐานะผู้ก่อตั้งเพจ ‘จากรุ่นสู่ลูก’ เพจเล่าเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูก ผ่านเซตภาพแฟชั่นที่เฟิสหยิบเสื้อผ้าสไตล์วินเทจของแม่ใหญ่มาใส่ใหม่ แต่ยังดูทันสมัยไม่ตกยุค

ยิ่งเธอตัดแปะรูปเก่าๆ ของแม่ในชุดเดียวกัน พร้อมแคปชั่นเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเสื้อผ้า สถานที่ และประสบการณ์ของแม่ ยิ่งทำให้คอนเทนต์ของเพจนั้นสนุกสนาน ชวนให้ใครหลายคนแชร์ตามกันจนเป็นไวรัลอยู่ช่วงหนึ่ง

หลังจากเปิดเพจมาไม่นาน เฟิสยังขยับขยายไปเล่าเรื่องธุรกิจที่ถูกส่งต่อจากรุ่นพ่อแม่มาถึงลูกหลาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอให้ความสนใจมาตลอด

ในวันแดดจ้าฟ้าสดใส เราจึงชวนเฟิสกับแม่มากระทบเข่าคุยกันเรื่องสายสัมพันธ์ของครอบครัว ด้วยเรื่องเล่าที่ถูกส่งต่อผ่านสิ่งทอ มากกว่านั้นคือความตั้งใจในการทำเพจที่ไม่เพียงแต่โชว์ความสวยสดของเสื้อผ้า ทว่าอยากชวนทุกคนมามองเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์ที่ใกล้ตัวที่สุดอย่าง ‘ครอบครัว’

สายสัมพันธ์ของครอบครัว     

ครอบครัวของเฟิสเป็นครอบครัวเล็กๆ พ่อกับแม่มีลูกสองคนคือเธอกับน้องชาย สายสัมพันธ์ในบ้านนั้นแข็งแรงและแนบแน่น บางครั้งเวลาพ่อแม่ไปทำงาน พวกเขาก็จะกระเตงลูกๆ ไปด้วยกัน พอถึงเวลาของมื้ออาหาร ทุกคนจะอยู่กันพร้อมหน้า

“แม่เป็นคนแรกที่พาเราเดินสยาม” เฟิสยืนยันความสนิทสนมระหว่างเธอกับแม่

“พอพ่อเสีย แม่ต้องเลี้ยงลูกด้วยตัวคนเดียว” แม่ใหญ่ช่วยเล่า และขยายความต่อว่าหลักในการเลี้ยงลูกไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการสอนให้ลูกรับผิดชอบชีวิตตัวเองและกตัญญูรู้คุณ  ซึ่งแม่ใหญ่ก็ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างโดยการดูแลคุณยายอย่างสม่ำเสมอ  

“ช่วงหนึ่งแม่อาจจะห่างเขาบ้างเพราะต้องให้เวลากับงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก แต่กลับมาสนิทกันตอนเขาเข้าสู่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย ทุกวันนี้ถึงเขาจะแต่งงานออกไปอยู่ข้างนอกแล้ว แต่เขารู้ว่าที่บ้านยังมีแม่อยู่ข้างหลัง เขาโทรมาหาเราทุกวัน ถ้ามีเรื่องอะไรเขาก็จะกลับมาหาแม่ได้เสมอ” แม่ใหญ่ยิ้มทั้งปากและตา

เสื้อผ้าของแม่

ในสายตาของคนรอบข้าง สิ่งที่เป็นภาพจำของแม่ใหญ่คือเสื้อผ้าสีสันสดใส ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ แม่ใหญ่มักอยู่ในชุดสีจี๊ดจ๊าดเสมอ

“แม่ชอบแต่งตัวมาตั้งแต่สมัยก่อน เป็นคนชอบสีสดๆ เพราะมันทำให้เรามีชีวิตชีวา เมื่อก่อนก็จะแต่งชุดสีตามวันเลย มีกางเกงแทบทุกสี เหลือง ชมพู ม่วง เรามีหมด” แม่ใหญ่เล่า ซึ่งนิสัยรักสีสดๆ นี้ก็ถูกส่งต่อมาให้เฟิสโดยที่เธอไม่รู้ตัว

ในสายตาของลูกสาว สิ่งที่เป็นภาพจำของแม่ใหญ่คือการเก็บรักษาเสื้อผ้าเหล่านั้นเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชุดที่สั่งตัดพิเศษสำหรับแม่ใหญ่โดยเฉพาะ ซึ่งมักจะตัดเย็บมาจากผ้าญี่ปุ่นที่ซักแล้วสีไม่ตก แม้จะผ่านเวลามาแล้วกว่า 30 ปีก็ยังมีสีสดใส

แม้ทุกวันนี้เฟิสจะชอบหยิบชุดของแม่มาใส่เป็นชีวิตจิตใจ แต่ย้อนกลับไป เฟิสออกปากว่าเธอไม่ได้ชอบเสื้อผ้าของแม่ตั้งแต่แรก 

“เมื่อก่อนให้เขาเขาไม่เอา เขาบอกว่าแก่” แม่ใหญ่หัวเราะ ในขณะที่ลูกสาวยกมือขอแก้ต่าง 

“แม่เริ่มส่งต่อเสื้อผ้ามาเราตั้งแต่ม.ต้น ในยุคนั้นเขาฮิตใส่กางเกงขาสั้นกันมาก แต่แม่ให้กางเกงยีนมา เราเลยถามว่าขอตัดได้ไหม แต่แม่ก็ไม่ให้ตัดและเลิกให้เสื้อผ้าเราไปเลย” เฟิสเล่าติดตลก 

“จนกระทั่งช่วงเรียนม.ปลาย เราเริ่มรู้จักตัวเองมากขึ้น ชอบเสื้อผ้าแนววินเทจเลยไปซื้อที่จตุจักร แล้วอยู่ดีๆ ก็คิดได้ว่าแม่เราก็มีนี่หว่า เลยไปขอลองใส่กางเกงของเขาอีกครั้ง”

ครั้งนี้ลูกสาวขอสัญญาว่าจะไม่ตัดกางเกงขายาวให้กลายเป็นขาสั้น แม่ใหญ่เลยให้ลองได้เต็มที่ ระหว่างที่ลองแม่ก็เล่าเรื่องราวของกางเกง สถานที่ตัด และยุคสมัยในอดีตให้ฟัง

“เขาจะเล่าตลอด บางตัวต้องไปตัดถึงบางขุนเทียน ซึ่งเมื่อก่อนบางขุนเทียนมันก็ไม่ได้ไปง่าย เราก็จะสงสัยว่าทำไมต้องไปตัดถึงนั่น แม่ชอบเล่าเรื่องสถานที่ต่างๆ ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนไปจากปัจจุบันพอสมควร มันไม่ใช่แค่เรื่องเสื้อผ้าที่เราคุยกัน แต่เสื้อผ้าตัวหนึ่งต่อยอดให้เราคุยกับแม่ได้ในหลายๆ เรื่อง”

สิ่งเหล่านี้เองที่จุดประกายไอเดียของเฟิสให้ทำเพจ ‘จากรุ่นสู่ลูก’

เพจของลูกสาว

ไอเดียการเปิดเพจมีมานาน และเฟิสก็ได้ฤกษ์เปิดเพจอย่างจริงจังตอนปลายปี 2021

“เราชอบใส่เสื้อผ้าแม่อยู่แล้วเลยอยากเล่าเรื่องนี้ เพราะรู้สึกว่า มันน้อยคนมากเลยนะที่เก็บเสื้อผ้าได้ขนาดนี้ ประกอบกับเมื่อก่อนแม่เป็นคนถ่ายรูปเยอะมาก มันเลยยิ่งสนุกที่ได้เห็นภาพของแม่ในวันเก่าๆ” นั่นคือจุดเริ่มต้นของการทำคอนเทนต์ที่เฟิสนำชุดแม่มาใส่ แล้วตัดแปะกับรูปแม่ที่ใส่ชุดเดียวกัน

ความตั้งใจของเพจไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องของเฟิสกับกับแม่เท่านั้น แต่เธออยากให้หลายคนหันกลับมามองความสัมพันธ์ใกล้ตัวที่มีคุณค่า แต่ทว่าอาจถูกมองข้ามไป นอกเหนือจากคอนเทนต์แฟชั่นและสถานที่ในอดีต เฟิสก็หันไปเล่าเรื่องการส่งต่อธุรกิจจากพ่อแม่สู่รุ่นลูกด้วย

“แม่เป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากทำ และเราอยากเป็นแรงบันดาลใจเล็กๆ ให้คนอื่นมองเห็นสิ่งใกล้ตัวบ้าง เพราะวันไหนที่ไม่มีกำลังใจ สิ่งเล็กๆ ที่ใกล้ตัวนี้จะเป็นกำลังใจที่โอบอุ้มเขา อาจไม่ใช่ความสัมพันธ์กับแม่ เป็นเพื่อนหรือคนใกล้ตัวก็ได้” เฟิสบอกแล้วระบายยิ้ม

ช่วงเวลาของเรา

นอกเหนือไปจากการเห็นคุณค่าของสายสัมพันธ์ เพจจากรุ่นสู่ลูกยังทำหน้าที่เป็น ‘กระดานแลกเปลี่ยนความคิดเห็น’ ระหว่างคนหลายช่วงวัย มากกว่านั้น เพจนี้ยังทำให้เฟิสได้เปิดมุมมองใหม่ๆ ที่มีต่อเสื้อผ้าของแม่ด้วย

“เมื่อก่อนเวลาเราเห็นแม่เก็บรักษาเสื้อผ้า เราก็จะสงสัยว่าแม่เรางกหรือเปล่า ทำไมเขาไม่ทิ้งอะไรเลย” ผู้เป็นลูกสาวหัวเราะ 

“แต่มีหลายคนมาชมว่าแม่เก็บรักษาเสื้อผ้ามานานขนาดนี้ได้ยังไง อย่างชุดแต่งงานของเรา ซึ่งเคยเป็นชุดแต่งงานของแม่ก็ถูกเก็บมานาน 33 ปีก็มีหลายคนมาชม เราได้รู้ว่าแม่เราไม่ได้งกหรอก แต่แม่รู้คุณค่าของสิ่งของ โดยเฉพาะของคุณภาพที่เขาเลือกซื้อมา

“จริงๆ การทำเพจนี้เป็นการพาแม่เข้าสู่โลกยุคใหม่เหมือนกันนะ เราไม่อยากเป็นคนรุ่นใหม่ที่ทิ้งแม่ไว้ข้างหลัง เพราะถ้านับกันจริงๆ แม่เป็นคนยุคบูมเมอร์ แต่เขาไม่ได้มีความคิดแบบผู้ใหญ่มากเพราะเราพาเขาไปเจอโลกยุคใหม่ ตอนแรกเขาสงสัยว่าทำแล้วจะมีใครมาดู แต่สุดท้ายก็มีคนมาชื่นชมว่าแม่รักษาเสื้อผ้าได้ดีมาก เป็นคนไม่รู้จักที่มาให้กำลังใจ มาแลกเปลี่ยนความเห็นกัน”

เพจจากรุ่นลูกลูกยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ของแม่ใหญ่กับเฟิสให้แนบแน่นกว่าเดิม

“เพจ ‘จากรุ่นสู่ลูก’ ทำให้เรากับแม่ได้ใช้เวลาด้วยกันเยอะขึ้น ตอนนี้แม่เราอายุ 63 แล้วแต่ยังเปิดร้านขายผ้าถุงกับผ้าไหมอยู่ ปีนึงมี 365 วัน แม่เปิดไปแล้ว 400 วัน การได้ชวนแม่ไปทำคอนเทนต์ก็ทำให้เขาได้พักด้วย เรากับน้องก็โตแล้ว อยากดูแลเขาบ้าง อยากให้เขาได้ให้ความสุขตัวเองบ้าง เพราะก่อนหน้านี้ความสุขของแม่คือเรากับน้องมาตลอดเลย” 

ลูกสาวจบบทสนทนาด้วยรอยยิ้มและประโยคที่เป็นดั่งคำสัญญา

Writer
Avatar photo
พัฒนา ค้าขาย

นักเขียนจากเชียงใหม่ผู้รักทะเลและฤดูหนาวพอๆ กับหนังสุขซึ้ง สนใจประเด็นเรื่องเพศ ความสัมพันธ์ และเรื่องป๊อปทุกแขนง

Photographer
Avatar photo
ณัฐวุฒิ เตจา

เปรี้ยว ซ่า น่าลัก

illustrator
Avatar photo
สิริกร พรอนงค์

ดีไซน์เนอร์, นักวาด และอาร์ตไดมือใหม่ที่ชอบไปทะเล

Related Posts

Related Posts