“I LOVE MY GAY SON” ประโยคสั้นๆ ที่แม่บอกลูกว่าจะอยู่ตรงนี้เสมอ ในวันที่เกาหลีใต้ยังปัดตกกฎหมายสมรสเท่าเทียม

“I LOVE MY GAY SON” ประโยคสั้นๆ ที่แม่บอกลูกว่าจะอยู่ตรงนี้เสมอ ในวันที่เกาหลีใต้ยังปัดตกกฎหมายสมรสเท่าเทียม

  • “ถึงสังคมจะไม่เข้าใจ แต่แม่จะเข้าใจลูกเอง” น่าจะเป็นสิ่งที่ภาพยนตร์สารคดีเกาหลีใต้ Coming to You อยากบอกกับคนดู
  • ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้ไม่ได้พาสำรวจแค่ตัวตนและความเป็นมนุษย์ของลูกที่เป็น LGBTQIA+ แต่ชวนดูจิตใจที่สั่นคลอนของแม่ที่อยู่เคียงข้างลูกในทุกสถานการณ์
  • ถึงแม่ๆ จะไม่เข้าใจว่า นิยามของความหลากหลายทางเพศคืออะไร แต่พวกเธอก็ไม่ผลักไสและบอกลูกว่า ในวันที่โลกหันหลังให้กับตัวตนของพวกเขา แม่จะอยู่ตรงนี้เสมอ

*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของภาพยนตร์สารคดี

“ส่วนใหญ่คนที่มีความหลากหลายทางเพศจะไม่ได้เจอครอบครัวอีกเลย”

เพื่อพิสูจน์ว่า ‘อีฮันกยอล’ พร้อมที่จะเป็นชาย เขาต้องส่งเอกสารให้กับศาลทั้งหมด 18 อย่าง หนึ่งในนั้น คือ  เอกสารยินยอมจากผู้ปกครอง

เพราะทั้งชีวิตของฮันกยอล มีแค่ ‘แม่’ ที่เข้าใจ ตั้งแต่วันที่ลูกสาวรวบรวมความกล้าไปขออนุญาตแม่เพื่อผ่าตัดหน้าอก เปลี่ยนสถานะจากลูกสาวเป็นลูกชาย

ฮันกยอล คือ ตัวแทนของลูกที่เป็นกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQIA+) จากภาพยนตร์สารคดีเกาหลี Coming to You ที่มีแม่อยู่สู้และเคียงข้างมาตลอด

ขณะที่เพื่อนหลายคนที่กำลังเผชิญสถานการณ์เดียวกันเลือกที่จะไม่เจอครอบครัว หลังบอกความจริงกับพ่อแม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่ากำลังทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เนื่องจากไม่สามารถเป็นลูกตามที่พ่อแม่คาดหวังไว้ได้ 

นอกจาก Coming to You จะเล่าตัวตนและความเป็นมนุษย์ที่ซ่อนอยู่ในกลุ่ม LGBTQIA+ แล้ว สารคดีก็พาคนดูทุกคนไปสำรวจจิตใจที่สั่นคลอนของแม่

คนหนึ่งสั่นคลอนเพราะลูกกำลังจะมีร่างกายที่เปลี่ยนไปจากหญิงเป็นชาย  ส่วนอีกคนต้องจมอยู่กับความเศร้า หลังลูกชายยอมรับว่าเป็นเกย์

สำหรับแม่ทั้งสองคน สิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่พยายามเข้าใจ แต่รับฟังแล้วจับมือลูกเดินไปพร้อมกันในสังคมที่ยังไม่สามารถยอมรับความหลากหลายได้

แต่แม่กับลูกจะวางใจได้ว่า ต่อให้โลกภายนอกจะปาหินใส่ แต่พวกเขาจะผ่านไปได้ด้วยแรงใจสำคัญที่ส่งถึงกัน แม้อีกฝั่งจะไม่ได้ร้องขอก็ตาม

ถึงสังคมไม่เข้าใจ แต่แม่จะเข้าใจลูกเอง

“ตอนเด็ก ผมไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากใส่กระโปรง แต่ผมก็ต้องใส่”

ตั้งแต่เกิด ฮันกยอล  คือ ลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่มาตลอด แต่เธอไม่อยากเป็นผู้หญิง ครั้งแรกที่บอกแม่ แม่ก็ตอบกลับมาว่า ลูกยังเด็ก นั่นเท่ากับแม่ยังไม่ยอมรับ

ความเป็นตัวตนที่ถูกกดทับไว้ในใจของฮันกยอลมาตลอดทำให้เขาต้องเผชิญกับภาวะซึมเศร้า เพราะความเป็นตัวเขาถูกสังคมมองข้ามทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างไร้ตัวตนในบ้านเกิด

เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมปลาย ฮันกยอลรวบรวมความกล้าบอกแม่อีกครั้งพร้อมขออนุญาตผ่าตัดเอาเต้านมออก เขาเริ่มบทสนทนาด้วยประโยคสั้นๆ ว่า

“แม่ ผมอาจจะต้องอยู่ในโลกที่ปาหินใส่ แค่ผมเป็นตัวผม”

ฮันกยอลรู้อยู่เต็มอกว่า แม่คงไม่ตอบรับอย่างทันทีแต่กาลเวลาค่อยๆ ทำให้ ‘นาบี’ แม่ของฮันกยอลยอมรับแล้วตัดสินใจที่จะเป็นคนพาลูกไปผ่าตัดหน้าอกตามคำขอด้วยตัวเอง

ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งของมุมโลก ‘จยองเยจุน’ นักศึกษาเกาหลีใต้ในแคนาดากำลังใช้ชีวิตในฐานะ LGBTQIA+ เพราะเชื่อว่า เมืองนี้จะเติมเต็มความสุขและเยียวยาบาดแผลของตัวเองเมื่อ 7 ปีก่อนได้

หนึ่งในกิจวัตรประจำวันของเยจุน คือ การวิดีโอคอลคุยกับ ‘แม่’ บทสนทนาของทั้งสองคนไม่ใช่คำถามและคำตอบที่ชวนอึดอัด แต่เป็นบทสนทนาที่เรียบง่าย 

กินข้าวหรือยัง? กี่โมงแล้ว? ทำอะไรอยู่? เป็นยังไงบ้าง? คำถามที่แม่ลูกผลัดกันถามผ่านหน้าจอ

แต่ภายใต้ความเข้าใจ จริงๆ แล้ว ‘วิเวียน’ แม่ของเยจุนกำลังต่อสู้กับจิตใจตัวเองทุกครั้งเพื่อให้การกระทำของเธอบอกลูกว่า ลูกจะไม่โดดเดี่ยวอีกต่อไป 

“ฉันพยายามจะเป็นแม่สุดเท่”  วิเวียนบอกหลังเจอแฟนของลูกครั้งแรก 

ถึงจะไม่สามารถเข้าใจหรือยอมรับได้ทั้งหมดว่า สิ่งที่ลูกเลือกที่จะเป็นคืออะไรแล้วเขาคือใคร แต่วิเวียนและนาบีก็ยังเลือกที่จะสู้กับสายตาสังคมและเคียงข้างลูกในทุกๆ วัน 

สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่พวกเธอโอบกอดตัวตนของลูกไม่ให้สั่นคลอนได้อย่างดีที่สุดเท่าที่แม่คนหนึ่งจะทำได้แล้ว

ไม่ว่าจะเป็นเกย์ไหม ถ้าเจอคนที่รัก พวกเขาควรได้อยู่ด้วยกัน 

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ศาลเกาหลีใต้ปัดตกกฎหมายสมรสเท่าเทียม รวมถึงปีที่แล้ว ครอบครัวเพศเดียวกันก็ไม่ถูกนับรวมอยู่ในนิยามคำว่า ‘ครอบครัว’ ของเกาหลีใต้

หมายความว่า คู่รักเพศเดียวกันยังคงใช้ชีวิตแบบไร้สิทธิ นั่นทำให้นาบีและวิเวียนลุกขึ้นมาส่งเสียงให้สังคมที่ลูกกำลังจะใช้ชีวิตต่อเข้าใจเรื่องนี้

นอกจากบทบาทแม่ ทั้งสองคนคือสมาชิกกลุ่ม ‘Pflag’ องค์การนอกภาครัฐที่สนับสนุนบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศและญาติมิตร 

“ลูกฉันกำลังอยู่ในโลกที่บ้าคลั่ง พ่อแม่ต้องสู้เพื่อลูก นี่คือสิ่งที่เราทำได้” นาบีบอกระหว่างเทศกาล Pride ในเกาหลีใต้พร้อมกับเอื้อมไปกอดฮันกยอลด้วยรอยยิ้ม

นอกจากสารคดีจะพาเราไปทำความรู้จักความเป็น ‘มนุษย์’ ของกลุ่มคน LGBTQIA+ แล้ว สารคดียังชวนผู้ชมไปยังการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียมทางเพศในเกาหลีใต้

“พ่อแม่จะจากไปก่อนลูก พอนึกถึงว่าลูกจะต้องโดดเดี่ยว ไม่มีใครดูแล ฉันรู้สึกเศร้าใจมาก” วิเวียนพูดในฐานะแม่ของลูกที่มีความหลากหลายทางเพศ

หลายครั้งการเรียกร้องเพื่อความเท่าเทียมจะเห็นภาพของ ‘ลูก’ ที่มาประกาศกับสังคม แต่สำหรับวิเวียนแม่ก็ควรทำหน้าที่นั้น

“ลูกของฉันจะโตเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเกย์ไหม ถ้าเขาเจอคนที่รัก พวกเขาควรอยู่ด้วยกัน” 

ถึงจะไม่ใช่คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่วิเวียนก็ได้แต่หวังว่า ลูกจะมีคนดูแลในวันที่เขาจากไป ไม่โดดเดี่ยวเหมือน 7 ปีที่ลูกชายเขาต้องเจอมา และได้อยู่กับคนที่เขารัก

นาบีเองก็อยากได้หลักประกันที่จะทำให้เธอเชื่อได้ว่า ช่วงชีวิตสุดท้ายของลูก เขาจะไม่ต้องอยู่คนเดียว

“ถ้าชีวิตลูกมันหนักหนา ขอให้วาระสุดท้ายของลูก แม่อยู่ด้วย” แม่บอกทั้งน้ำตา เพราะเข้าใจแล้วว่า ชีวิตข้ามเพศของลูกเป็นอย่างไร

อาจจะใช่ที่โลกคงปาหินใส่ฮันกยอล แต่สิ่งที่เธออยากบอกลูก คือ แม่จะสู้ไปกับลูกเอง 

เพราะเหตุผลนี้ ทำให้นาบีเขียนจดหมายยินยอมการเปลี่ยนสถานะเพศให้ลูก กอดเขาในวันพิจารณาข้อเรียกร้องนี้ครั้งแรก แต่ถูกปฏิเสธ และยินดีกับลูกในวันที่ทุกอย่างสำเร็จตามที่ลูกหวัง

แม้จะไม่ใช่การกระทำที่ยิ่งใหญ่ แต่ทุกคำพูดและการดูแลของแม่ คือ การเติมแรงใจและความมั่นใจให้ฮันกยอลว่า การตัดสินใจเปลี่ยนจากหญิงเป็นชายครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องผิดพลาด 

แล้วกล้าตอบคำถามผู้พิพากษาที่ถามย้ำลูกอีกครั้งว่า แน่ใจแล้วใช่ไหมที่จะเปลี่ยนสถานะ ฮันกยอลก็ตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาไปว่า “ผมแน่ใจครับ”

I LOVE MY GAY SON

“ฉันคือพ่อ/แม่ของลูกที่เป็น… (อัตลักษณ์ทางเพศ)”

พ่อแม่ในกลุ่ม Pflag จะแนะนำตัวด้วยประโยคนี้เสมอๆ ถึงใจลึกๆ ก็ยังคงถกเถียงกับตัวเองว่า คำนิยามนั้นคืออะไร

เกย์คืออะไร ?

bisexual คืออะไร?

transgender คืออะไร ?

สิ่งเหล่านี้พ่อแม่อาจจะยังไม่เจอคำตอบที่ชัดเจน แต่พูดเพราะลูกบอกว่าเขาเป็นแบบนั้น เพราะคำนิยามที่ลูกบอกเป็นคำที่ลูกรู้สึกสบายใจและมีความสุข 

นั่นจึงทำให้การเข้าร่วมงาน Pride ที่แคนาดาของวิเวียน เขาเลือกที่จะเดินชูป้าย “I LOVE MY GAY SON”  ให้ชาวแคนาดาได้เห็นแรงซัพพอร์ตนี้ของแม่

ตัดกลับมาที่เกาหลีใต้ ‘นาบี’ ก็พยายามทำหน้าที่แม่ให้ดีที่สุดเพื่อสร้างรากฐานครอบครัวที่มั่นคงด้วยความเข้าใจ แม้สิ่งที่แม่เข้าใจจะเป็นเศษเสี้ยวของเรื่องทั้งหมดก็ตาม

อาจเป็นเพราะความหวังของแม่ๆ ที่มีลูกเป็นคนที่มีความหลากหลายทางเพศ คือ การเห็นลูกมีความสุขและได้อยู่กับคนที่เขารักได้ในวันหนึ่ง

Coming to You จึงเป็นภาพยนตร์สารคดีที่เรียกร้องให้สังคม รับรู้ความเป็นมนุษย์ของชาว LGBTQIA+ ผ่านเสาหลักสำคัญ คือ ครอบครัวที่ไม่ได้ผลักไส แต่พร้อมที่จะเรียนรู้และเข้าใจไปพร้อมกัน

เพื่อบอกสังคมที่เต็มไปด้วยความหลากหลายในโลกใบนี้ว่า “I LOVE MY GAY SON”

สถานการณ์การเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศในเกาหลีใต้
– ปัจจุบันกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศยังไม่สามารถแต่งงานกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 
– กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศรวมถึงบางครั้งอาจถูกกีดกันออกจากสังคมและกลุ่มเพื่อน
– กองทัพเกาหลีใต้ถูกห้ามไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมทางเพศ มิเช่นนนั้นอาจต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีตามประมวลกฎหมายอาญาของทหาร

กฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทย
ปัจจุบันรัฐสภามีมติรับร่างสมรสเท่าเทียมและพ.ร.บ.คู่ชีวิตเข้าสู่วาระที่ 2 ที่จะต้องรอการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ

ประเด็นสำคัญของสมรสเท่าเทียมที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล คือ 
– คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้เป็น ‘คู่สมรส’ 
– เปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถกระทำการทางการเงินหรือทางการแพทย์ได้
– สามารถใช้นามสกุลคู่สมรสได้

ประเด็นสำคัญของพ.ร.บ.คู่ชีวิต คือ
– คู่รักเพศเดียวกันสามารถแต่งงานกันได้เป็น ‘คู่ชีวิต’ 
– เปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถกระทำการทางการเงินหรือทางการแพทย์ได้
– ยังไม่สามารถใช้นามสกุลของคู่สมรสได้

อ้างอิง

https://www.voanews.com/a/east-asia-pacific_same-sex-couples-excluded-south-koreas-new-definition-families/6201455.html

https://www.hrw.org/news/2022/01/10/south-korean-court-declines-recognize-same-sex-partners

https://www.ilaw.or.th/node/6169

https://www.chapman.edu/international-studies/_files/lgbtq-country-specific.pdf

Writer
Avatar photo
ณัฐธนีย์ ลิ้มวัฒนาพันธ์

ชอบดูซีรีส์เกาหลี เพราะเชื่อว่าตัวเราสามารถสร้างพื้นที่การเรียนรู้ได้ สนใจเรื่องระบบการศึกษาเเละความสัมพันธ์ในครอบครัว พยายามฝึกการเล่าเรื่องให้สนุกเเบบฉบับของตัวเอง

illustrator
Avatar photo
ธนัชพร จันทร์เขียว

เด็กฝึกงานกราฟิกที่ชอบวาดภาพท้องฟ้าและทะเล ติดของหวานเป็นชีวิตจิตใจ ชอบเปิดเพลง r&b ตอนทำงานโดยเฉพาะตอนวาดภาพ มันช่วยให้มีสมาธิและสามารถโฟกัสกับการทำงานได้ดี

Related Posts

Related Posts