Esan Ambian โปรดิวเซอร์ผู้ปั้นแร็ปเปอร์อายุน้อยที่สุดในเมืองไทยและใช้เวลาทำเพลงแค่ 1 ชั่วโมง

Esan Ambian โปรดิวเซอร์ผู้ปั้นแร็ปเปอร์อายุน้อยที่สุดในเมืองไทยและใช้เวลาทำเพลงแค่ 1 ชั่วโมง

เวลา 1 ชั่วโมงของใครหลายคน อาจเป็นเวลาที่ใช้ในการออกกำลังกาย กินข้าว ทำงานบ้าน หรือ ไถฟีดเฟซบุ๊กเสพข่าวระหว่างวัน 

แต่สำหรับ ป้าย-ชัยเขตต์ อมรสิน หรือ Esan Ambian เขาใช้เวลา 1 ชั่วโมงในการทำเพลง 1 เพลง
อ่านไม่ผิด เพราะป้ายใช้เวลาตั้งแต่เริ่มทำบีทและมิกซ์มาสเตอร์ รวมทั้งหมดเสร็จสรรพภายในเวลา ‘1 ชั่วโมง’ และเขาก็ส่งงานถึงมือลูกค้าได้ทันที

“การทำเพลงก็เหมือนกับการฝึกทาสีบ้านครับ ผมพยายามฝึกทาทุกวัน ยิ่งทาบ่อยๆ เราก็จะยิ่งใช้เวลาน้อยลง แต่ทาได้สวยมากขึ้น” ป้ายเล่าถึงวิธีที่ใช้ฝึกฝนฝีมือ

ALL-IN-ONE

ป้ายแนะนำตัวกับเราว่าเขาคือ โปรดิวเซอร์ ผู้ทำโปรดักชันในทุกขั้นตอนเริ่มตั้งแต่คัดเลือกศิลปินที่อยากร่วมงาน แต่งเพลง ทำบีท อัดเสียง ถ่าย MV จนกระทั่งตัดวิดีโอ ป้ายสามารถทำทุกขั้นตอนได้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว และผลงานทุกชิ้นในช่อง YouTube: MBB GANG และ #STUDIO ก็เป็นผลงานที่เขาลงทุนลงแรงทำเองทั้งหมด

ป้ายได้ร่วมงานกับศิลปินที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็น NINO, 1ST, VKL, RIFLE, TURBO และศิลปินอีกหลายๆ คนในวงการเพลงก็ยังคงไว้วางใจให้เขาทำเพลงให้ เพราะสนใจในความสามารถที่มี ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำในวันนี้ เริ่มต้นจากความชอบในเสียงดนตรีที่มีมาตั้งแต่ 4 ขวบ

“ตอนสมัยเด็ก ในหมู่บ้านเขาจะมีวงกลองยาว ผมเริ่มเรียนรู้จากการหัดตีกลองยาว ดีดพิณ ทำทุกอย่างอยู่ในวงกลองยาว ครอบครัวผมเขาก็ชอบดนตรีอยู่แล้ว คุณพ่อก็เล่นดนตรี ส่วนน้าผมเคยเป็นแบ็กอัพของวงคีรีบูน ตอนนี้เขาก็เป็นครูสอนดนตรี บ้านผมจะมาทางสายดนตรีกันหมด ขนาดป้าผมที่รับราชการครูก็ยังสอนนาฏศิลป์เลยครับ” 

หลังจากที่ได้เติบโตมากับเสียงดนตรีและเสียงร้องเพลงคาราโอเกะของครอบครัว ป้ายเริ่มเดินสายประกวดวงดนตรีตั้งแต่เด็กและเลือกเรียนในสิ่งที่ชอบ นั่นคือวิชาดนตรี เขาเรียนจบจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี แม้สาขาวิชานี้จะไม่ได้สอนเรื่องการทำเพลงในแบบของโปรดิวเซอร์อย่างที่ป้ายกำลังทำอยู่ แต่สิ่งที่ป้ายได้เรียนรู้จากสาขานี้ คือวิธีการจัดระเบียบวางแผนในการทำเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้ในระยะเวลาอันสั้น

“ผมได้เรียนรู้เรื่องการวางแผนจัดระเบียบในการทำเพลงจาก อาจารย์ศรัณย์ ศรีพุทธรินทร์ ซึ่งเป็นอาจารย์สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และยังมีพี่ ธนรรถ ศรีพุทธรินทร์ น้องชายแท้ๆ ของอาจารย์ที่คอยให้พลังบวกทางดนตรีตลอด ผมใช้เวลาอยู่ 5 – 6 ปี พยายามฝึกจนเป็นกิจวัตร เราต้องฝึกฝนอยู่ตลอด ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ผมก็ยังมองว่ามันเป็นการฝึกฝนอยู่ครับ” ป้ายเล่า

“ผมเริ่มฝึกทำเพลงจากการดู YouTube แต่ด้วยความที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษ ผมก็เลยลองมาทำเอง ลองมั่วเครื่องมือดู แต่เพื่อนผมก็พอจะมีความรู้ในด้านนี้ เขาคือ เด่น วิชา วง YII EINSTEIN เด่นสอนผมหลายเรื่องจนผมนำมาฝึกฝนพัฒนาต่อได้”

หลังจากเริ่มเรียนรู้และพัฒนาฝีมือจนคล่องแคล่ว ป้ายสร้างช่อง MBB GANG ซึ่งเป็นช่องทางในการลงผลงานของเขาในปัจจุบันขึ้นมา และเริ่มสร้างผลงานให้กับศิลปินหน้าใหม่ที่เขาเลือกมาเองกับมือ โดยเลือกจาก ‘ความมุ่งมั่นตั้งใจ’ 
“สมัยก่อนผมเลือกเยอะครับ มีเด็กที่ผมปั้นขึ้นมาเยอะมาก แต่ผมไม่เคยคิดเงินเขาเลยแม้แต่บาทเดียว เพราะผมเห็นความตั้งใจ มันเหมือนผมได้มองเห็นตัวเองในอดีตตอนที่ยังไม่มีอะไรเลยแต่อยากทำเพลงมาก”

ปราม-จิรโชติ อมรสิน หรือ UFA GAMER

นักปั้นฝัน

“ศิลปินคนแรกที่ผมปั้น ก็คือน้องชายผมเองครับ” 

ปราม-จิรโชติ อมรสิน หรือ UFA GAMER น้องชายคนเล็กของบ้าน คือศิลปินที่ป้ายเลือกปั้นขึ้นมาเป็นคนแรก
เมื่อพี่ชายเติบโตมากับเสียงดนตรี คงไม่แปลกที่คนเป็นน้องจะเริ่มซึมซับและอยากลองในสิ่งที่พี่ชายทำ ปรามคือเด็กอายุ 11 ปีที่ความคิดความอ่านดีเกินวัย เขารักในฟุตบอลและชอบการเล่นเกม จึงกลายมาเป็นที่มาของสเตจเนม UFA GAMER และปรามยังมีความฝันอยากเป็นแร็ปเปอร์ที่โด่งดังไม่แพ้ศิลปินต่างประเทศ

“ผมอยากมีเพลงติดชาร์ต Billboard เหมือนพี่สไปร์ทครับ” ปรามเล่าเป้าหมายของเขาให้ฟัง สไปรท์-ศุกลวัฒน์ พวงสมบัติ หรือ SPRITE แร็ปเปอร์อายุน้อยมากความสามารถ คือไอดอลของปราม หลังจากที่เพลง ‘ทน’ ของ SPRITE และ GUYGEEGEE ติดอันดับ Billboard Global Excl. U.S. ปรามเริ่มมีแรงผลักดันและเริ่มใฝ่ฝันอยากเป็นแร็ปเปอร์ชื่อดัง  เขาใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องอัดเพลงกับพี่ชาย เรียนรู้วิธีการทำเพลงจนกระทั่งอัดเพลงและแต่งเพลงได้เอง แต่ถึงอย่างนั้นปรามก็ยังมีอีกหนึ่งความฝัน นั่นคือการเป็นนักฟุตบอล

“โตขึ้นผมอาจจะต้องเลือกครับ แต่ผมจะพยายามทำให้ดีทั้งสองอย่าง” ปรามบอกเราด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น 

แรงผลักดันจากครอบครัว

ความฝันของป้ายและปรามมีครอบครัวเป็นแรงสนับสนุนหลัก 

“ที่ผมได้ทำสิ่งต่างๆ เพราะครอบครัวสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกๆ เรื่อง ตอนเด็กๆ พ่อผมเป็นคนดุมาก แต่เขาก็ซื้อคีย์บอร์ดให้ คีย์บอร์ดผมแพงที่สุดในอำเภอเลยนะครับ (หัวเราะ) คนมาขอดูกันเต็มไปหมด พ่อเขาจัดเต็ม” ป้ายเล่า
“พ่อคุยกับเขาว่าถ้าชอบในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ พ่อพร้อมจะให้เขาทำ ทำได้ทุกอย่างเลยนะ” พ่อป้อม-สมโภชน์ อมรสิน บอกกับเรา ก่อนจะเล่าว่าเขาภูมิใจในตัวลูกๆ มาก และพร้อมที่จะเป็นแรงผลักดันให้เด็กๆ ได้ก้าวไปถึงฝั่งฝัน

“หลังจากที่ป้ายเรียนจบ เขาขอเวลาพ่อ 2 ปี เพื่อจะทำให้พ่อเห็นว่าเขาจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้โดยการทำงานตรงนี้ แล้วเขาก็ทำได้จริงๆ” 

ภาพฝันในอนาคต

ป้ายฝึกทำเพลงมาเป็นระยะเวลากว่า 8 ปี มีผลงานเพลงนับไม่ถ้วน ร่วมงานและทำเพลงให้กับศิลปินมากมายและในวันนี้ป้ายมีโปรเจกต์ที่จะสร้างสตูดิโอใหญ่ในพื้นที่ 2 ไร่ เพื่อที่จะได้เดินหน้าเรื่องงานเพลงและงานโปรดักชันอย่างเต็มตัว

“สตูดิโอนี้ก็ได้แรงสนับสนุนจาก พี่บอย-พิชิต ธรรมชาติ ครับ จริงๆ แล้วพี่บอยเป็นลูกค้าที่มาจ้างผมทำเพลง ผมมีโอกาสได้ไปหาเขาที่กาญจนบุรี ได้พูดคุยกัน ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน เราเริ่มรักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง พี่บอยก็เลยสนับสนุนผมในหลายๆ เรื่อง”

แม้ว่าป้ายจะใช้เวลาอันสั้นในการทำเพลงและทำโปรดักชัน แต่ป้ายยังคงย้ำกับเราว่าเขาใส่ใจในทุกรายละเอียด และงานทุกงานที่ออกมานั้นจะต้องมีคุณภาพ และเป็นผลงานที่สดใหม่

น้าเลิศ-จิรายุ ทองนุ่ม หรือ KANTAIBOY ศิลปินที่ผมเพิ่งทำเพลงให้ เขาก็เป็นญาติทางฝั่งพี่บอย ก่อนหน้านี้น้าเลิศเป็นนักร้องลูกทุ่ง ดังในยุคก่อนอยู่แล้ว พอน้าเลิศได้มาเห็นพวกผมทำเพลง ถ่าย MV เขาก็สนใจ ผมเลยชวนน้าเลิศมาทำเพลงด้วยกัน พอได้เริ่มทำเพลงแรกปรากฏว่าเขาชอบมาก ตอนนี้กำลังทำเพลงที่สองกันอยู่ เราทำการซื้อลิขสิทธิ์เพลงเก่าของน้าเลิศเพื่อนำมาทำใหม่โดยเฉพาะ รอฟังได้เลยครับ”

“ใครอยากแจ้งเกิดในวงการนี้ต้องแตกต่างเท่านั้นครับ ในวงการนี้ส่วนใหญ่ถ้าสังเกตดูก็จะเห็นว่าใครๆ ก็จะมีสไตล์ที่คล้ายกัน แต่ผมจะแต่งตัวโดยใส่เสื้อม่อฮ่อม กอดแคน ผมพยายามนำเสนอความเป็นอีสานอยู่เสมอ เราต้องสร้างความแตกต่างขึ้นมา ในวงการนี้ต้องทำตัวเป็นแกะดำครับ อย่างน้าเลิศเขาก็เป็นแกะดำนะ อายุ 60 ปี ใครจะมาทำเพลง น้าเลิศก็เลยเป็นที่รู้จักในวงการเพลงยุคใหม่เยอะเพราะการเป็นแกะดำนี่แหละครับ” 

ป้ายบอกว่าฝันของเขาในอนาคตคือการที่คนอีสานได้มีพื้นที่ในวงการเพลงมากขึ้น ได้มีโอกาสทำโปรดักชันเพื่อแสดงฝีมือ และด้วยเหตุนี้การสร้างสตูดิโอของป้ายจึงมีอีกหนึ่งจุดประสงค์ คือเพื่อรองรับคนอีสานที่อยากกลับมาทำงานที่บ้านเกิด และจุดประสงค์ของเขาก็กำลังจะเป็นจริงในเวลาอันใกล้นี้

“ผมอยากทำโปรดักชันดีๆ โปรดักชันที่ยิ่งใหญ่ แต่คิดราคาบ้านเรา”

“ผมภูมิใจในความเป็นอีสาน ความเป็นอีสานและดนตรีอีสานคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวผมได้มีวันนี้ ที่ทุกคนรู้จักผมก็เพราะดนตรีอีสานที่นำมาผสมกับศาสตร์ของเมืองนอก ผมใช้ชีวิตอยู่กับวิถีอีสานมาแบบล้านเปอร์เซ็นต์ กล้าพูดได้เลยว่าถ้าเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับความเป็นอีสาน ไม่มีอะไรที่ผมยังไม่เคยทำ มันคือบรรยากาศอีสาน สิ่งนี้แหละครับที่หล่อหลอมให้ผมกลายเป็น Esan Ambian”

Writer
Avatar photo
ณัฐนรี บัวขม

มีชีวิตอยู่เพื่อดูคลิปตลก คีบตุ๊กตา และเดินหาร้านอร่อยในย่านบรรทัดทอง

Photographer
Avatar photo
ฉัตรมงคล รักราช

ช่างภาพ และนักหัดเขียน

Related Posts

Related Posts